• จันทร์. ก.พ. 10th, 2025

วัดกุดอ้อสืบสานประเพณีโบราณ เผาศพคุณตากล้วย อายุ 150 ปี ทำกุศโลบายเปิดเมรุใหม่

กาฬสินธุ์ วัดกุดอ้อสืบสานประเพณีโบราณ เผาศพคุณตากล้วย อายุ 150 ปี ทำกุศโลบายเปิดเมรุใหม่
พาไปดูพิธีที่ถือปฏิบัติกันมาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่หาดูไม่ได้ง่ายๆ ต้องผ่านการเผาศพมาแล้วถึง 337 ศพ ใช้เวลา 22 ปี ถึงจะมีหนึ่งครั้ง เป็นเหมือนการจำลองการเผาศพจริง แต่ใช้กุศโลบายโดยใช้ต้นกล้วย เป็นความเชื่อตามคติโบราณ โดยตั้งชื่อต้นกล้วยว่าเป็นคุณตากล้วย อายุ 150 ปี เป็นชาวบ้านในหมู่บ้านที่มีอายุยืนยาวมากที่สุด ซึ่งก็มีชาวบ้าน โดยเฉพาะเด็กๆ เข้ามาร่วมพิธีโบราณในครั้งนี้เป็นจำนวนมาก

วันอาทิตย์ที่ 19 เดือน มกราคม พ.ศ. 2568 เวลา 09.00 น. ณ ศาลารวมญาติวัดกุดอ้อ ตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พระเดชพระคุณพระสุนทรธรรมประพุทธ์ เจ้าอาวาสวัดเหนือ, ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ พระเดชพระคุณพระเมธีวัชราจารย์,ดร. เจ้าอาวาสวัดกลางพระอารามหลวง, เจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในพิธีถวายเมรุและพิธีทำบุญอุทิศแด่บูรพาจารย์ โดยมีนายแพทย์สมชัย นิจพานิช อดีตอธิบดีกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, อดีตผู้อำนวยการโรงพยาบาลกาฬสินธุ์ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พร้อมด้วยพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง โดยมีพิธีประชุมเพลิงตามคติโบราณ เผาศพคุณตากล้วย อายุ 150 ปี เป็นความเชื่อตามคติโบราณ และยังเป็นการทดสอบเมรุ เพราะต้นกล้วยมีใยและน้ำเหมือนคน อีกทั้งยังเป็นกุศโลบายในการเปิดเมรุใหม่ด้วย
พระครูสุตรัตนานุกูล เจ้าอาวาสวัดกุดอ้อ, ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกลาง พระอารามหลวงเลขานุการเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ กล่าวในนามผู้แทนคณะสงฆ์วัดกุดอ้อ ชาวบ้านกุดอ้อ ชาวบ้านสุขสวัสดิ์ และพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานว่า ด้วยเมรุหลังเดิมได้ดำเนินการก่อสร้างขึ้น เมื่อปี พ.ศ. 2544 ต่อมาปี พ.ศ. 2558 ทางวัดได้ทำการบูรณะเมรุหลังเดิม จวบจนกระทั่งปี พ.ศ. 2560 และปี พ.ศ. 2562 ได้เกิดอุทกภัยน้ำท่วมวัด จึงทำให้ตัวเมรุหลังเดิมทรุดตัวลงตามกาลเวลา รวมระยะเวลาในการใช้งาน 22 ปี และทำการฌาปนกิจศพ ทั้งสิ้น 337 ศพ
พ.ศ. 2566 เจ้าอาวาสวัดกุดอ้อ พร้อมด้วยชาวบ้านกุดอ้อและชาวบ้านสุขสวัสดิ์ ได้ประชุมปรึกษาหารือดำเนินการโครงการก่อสร้างเมรุหลังใหม่ทดแทนเมรุหลังเดิม ที่ชำรุดทรุดโทรม โดยทางวัดกุดอ้อ ได้ขออนุญาตการก่อสร้างเมรุจากทางเทศบาลตำบลหลุบ และมีวิศวะและคณะกรรมการควบคุมการก่อสร้าง
วันที่ 1 ธันวาคม 2566 ประชุมชาวบ้านและแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการก่อสร้าง
วันที่ 6 ธันวาคม 2567 ทำพิธีสวดสูตรถอด – สูตรถอนเมรุ และดำเนินการรื้อถอนเมรุหลังเดิม
วันที่ 5 มกราคม 2567 ประชุมคณะกรรมการ และประมูลการก่อสร้าง
วันที่ 7 มกราคม 2567 เซ็นสัญญาการก่อสร้าง
วันที่ 11 มกราคม 2567 เริ่มดำเนินการก่อสร้าง
จนถึง 13 ธันวาคม 2567 ตรวจรับงาน จึงแล้วเสร็จ
รวมระยะเวลา การก่อสร้าง 7 เดือน 13 วัน
ลักษณะตัวเมรุ ตัวเมรุกว้าง 5.50 เมตร ยาว 9.50 เมตร ความสูงจากพื้นถึงปล่องท่อควัน 17.50 เมตร ตอกเสาเข็ม หน้า 30 เซนติเมตร ยาว 8 เมตร จำนวน 24 ต้น หลังคาทรงล้านนาประยุกต์ ก่ออิฐถือปูน มีเตาเผาด้วยถ่าน 1 ช่อง ประดับคันถวยรอบข้าง พื้นหินขัด บันไดหินล้าง บันไดขึ้นลง 3 ทาง ติดตั้งระบบไฟฟ้าแสงสว่างภายใน ระบบสายล่อไฟ และติดตั้งระบบไฟ 3 เฟส รองรับการติดตั้งเตาเผาปลอดมลพิษในอนาคต
โดยได้รับการอุปถัมภ์การก่อสร้าง จากคณะลูกหลานเตี๋ยบุญชิต คุณแม่เทียมทัด สุภัควณิช โดยการ นำของคุณพ่อวิชัย คุณแม่บุญทิวา ทวีสิทธิ์ ให้การอุปถัมภ์ จำนวน 1,015,630 บาท และผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาค จำนวน 1,050,631 บาท รวมทั้งสิ้น 2,066,261 บาท รวมค่าก่อสร้างทั้งสิ้น 2,066,261 บาท เฉพาะตัวเมรุ 1,628,698 บาท
งานพิธีทำบุญอุทิศแด่บูรพาจารย์ เพื่อเป็นการแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทิตา น้อมรำลึกนึกถึงแด่บูรพาจารย์ของวัด คือ พระครูธรรมจักรโสภณ อดีตเจ้าอาวาสวัดกุดอ้อ ผู้เป็นปฐมาบูรพาจารย์ ท่านได้พัฒนาวัดกุดอ้อ ทุกด้านจนเจริญรุ่งเรืองมาเป็นลำดับ ทำให้วัดให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านและพุทธศาสนิกชนทั่วไป จนกระทั่งถึงแก่มรณภาพลงเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2562 ผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับทางวัด และเพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ศพที่ได้ทำการฌาปนกิจที่เมรุหลังเดิม จำนวน 337 ศพ และเพื่ออุทิศส่วนกุศลแด่ญาติผู้ล่วงลับ และเพื่อความสมัครสมานสามัคคีของ “บวร” บ้าน วัด และโรงเรียน
ประวัติวัดกุดอ้อ
วัดกุดอ้อ ตั้งอยู่เลขที่ 235 บ้านกุดอ้อ ตำบลหลุบ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย
เมื่อปี พ.ศ.2527 โดยมีนายทองยุ่น จงสมชัย ผู้ใหญ่บ้านในครั้งนั้น พร้อมชาวบ้านกุดอ้อ ได้ไปกราบนมัสการนิมนต์ พระอาจารย์หนูอินทร์ กิตฺติสาโร เจ้าคณะตำบลหลุบในครั้งนั้น (ปัจจุบันสมณศักดิ์ที่พระราชศีลโสภิต) มาเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในการจัดทอดผ้าป่าเพื่อซื้อที่ดินสร้างวัด รวบรวมปัจจัยจำนวน 100,000 บาท จึงได้ซื้อที่นาของนายบุญจันทร์ ถิตย์สอาด จำนวน 6 ไร่ 3 งาน 23 ตารางวา และท่านได้มอบหมายให้ พระขุนทอง จกฺกวโร (ต่อมาได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ที่ พระครูธรรมจักรโสภณ) ได้มาเป็นผู้ดำเนินการสร้างวัดเป็นลำดับเรื่อยมา
เมื่อวันที่ 1 เดือนเมษายน พ.ศ. 2564 พระครูสุตรัตนานุกูล ได้รับการแต่งตั้งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดกุดอ้อ รูปที่ 2 ได้พัฒนา บูรณะ และปรับภูมิทัศน์วัดกุดอ้อ และพัฒนางาน ทั้ง 6 ด้าน มาโดยลำดับ
วัดกุดอ้อ ได้รับอนุญาตสร้างวัดเมื่อวันที่ 22 เดือนมกราคม พ.ศ. 2529 และได้รับประกาศจัดตั้งวัดเมื่อวันที่ 13 เดือนตุลาคม พ.ศ. 2529 ต่อมาได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 12 เดือนกุมภาพันธ์
พ.ศ. 2545 ได้รับจัดตั้งเป็นศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ และชุมชนคุณธรรม ลานธรรมลานวิถีไทยเมื่อวันที่ 22 เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2552 ปี พ.ศ. 2561 ได้รับคัดเลือกจากกระทรวงสาธารณสุขให้เป็นวัดส่งเสริมสุขภาพดีเด่นระดับจังหวัด และปี พ.ศ. 2564 ได้รับคัดเลือกจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้เป็นอุทยานการศึกษาภายในวัด
การปกครอง ลำดับเจ้าอาวาส ดังนี้
1. พระครูธรรมจักรโสภณ (ขุนทอง จกฺกวโร) ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2530 – พ.ศ. 2562
2. พระครูสุตรัตนานุกูล ดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 – ถึงปัจจุบัน
พระยังได้สอบถามญาติโยมที่มาร่วมงานในวันนี้ ทุกคนต่างตอบเป็นเสียงเดียวกัน ตอบ 2 อย่างเป็นเสียงเดียวกันว่า “เมรุสวยงาม แต่ไม่อยากได้” (นาทีที่ 6.00)
และในวันนี้คอหวยก็ไม่พลาดจดจำตัวเลขต่าง ๆ ที่เจ้าอาวาสวัดกุดอ้อได้กล่าวให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นเลขจำนวนศพที่ผ่านการเผาศพในเมรุเดิม จำนวน 337 ศพ ส่องดูตัวเลขในกล่องควบคุมไฟฟ้าที่กระพริบ ๆ อยู่ มี 236 237 234 (นาที่ที่ 6.12) นำไปเสี่ยงโชคซื้อล็อตเตอรี่งวดที่จะถึงนี้ด้วย
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com