• พฤหัส. ธ.ค. 12th, 2024

กาฬสินธุ์  ธนาธรรุกปลดล็อคท้องถิ่นคิดเองแก้ปัญหาเอง

นายธนาธร ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เปิดแคมเปญล่ารายชื่อ “ขอคนละชื่อ” ปลดล็อคท้องถิ่น แก้ไขรัฐธรรมนูญ ผลักดันร่างแก้ไขอำนาจ และงบประมาณจากส่วนกลางเป็นของท้องถิ่น เพื่อให้ชาวบ้านเลือกตัวแทนเข้าไปบริหารจัดการงบประมาณของคนท้องถิ่นกันเอง ขณะที่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่สนใจขานรับเพื่อนำไปขยายผลเพื่อปลดล็อคท้องถิ่น

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ ณ ห้องประชุมโรงแรม ร่มไทรทอง เมืองกาฬสินธุ์ จัดรณรงค์ แคมเปญ แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 ว่าด้วยการปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อปลดล็อคท้องถิ่น คืนอำนาจและงบประมาณ ให้กับคนท้องถิ่นได้บริหารจัดการกันเอง

โดยการล่ารายชื่อ “ขอคนละชื่อ ปลดล็อคท้องถิ่น” คืนอำนาจให้กับคนท้องถิ่น มุ่งเน้นแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับปี พ.ศ.2560 หมวดที่ 14 เป็นหมวดที่ว่าด้วยการปกครองส่วนถิ่น โดยร่างแก้ไขรัฐธรรมที่ผลักดันขึ้นมาใหม่ จะมุ่งเน้นไปที่ การบริหารจัดการอำนาจและงบประมาณ จากที่รวมศูนย์อยู่ส่วนกลางให้มาอยู่ที่ท้องถิ่นมากขึ้น เพื่อประชาชนได้เลือกตัวแทนเข้าไปบริหารจัดการงบประมาณ และอำนาจที่มีอยู่พอเพียง ในการจัดการดูแลบริการสาธารณะต่างๆในพื้นที่ของตัวเอง ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมประชาธิปไตย ทำให้เมือง อบต. ทต.ต่างๆ มีงบประมาณเพียงพอในการบริการสาธารณะต่างๆ อาทิ สวนสาธารณะ โรงเรียน ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก เรื่องของสิ่งแวดล้อม ชลประทาน น้ำประปา ได้ด้วยตัวเองอย่างมีคุณภาพ

นายธนาธร เชื่อว่า ถ้าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่าน ท้องถิ่นจะเป็นการดึงศักยภาพของผู้คนในพื้นที่ออกมา ร่วมพัฒนาท้องถิ่นของตัวเองได้ ความเจริญจะเกิดขึ้น จะเกิดพลังทางเศรษฐกิจอย่างมหาศาล ทำให้มีงานที่มีคุณภาพให้กับลูกหลานของคนในท้องถิ่นได้ทำในพื้นที่โดยไม่ต้องย้ายถิ่นฐาน

ขณะที่ คุณครูทวี ขาวผ่อง อดีตรองผู้อำนวยการโรงเรียนนามนราษฎร์สงเคราะห์ อ.นามน จ.กาฬสินธุ์ ออกมาเปิดเผยหลังเข้าร่วมแคมเปญ มีความสนใจในการพัฒนาท้องถิ่นให้มีความเจริญกว้าหน้าเป็นทุนอยู่ก่อนแล้ว และยังเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับพี่น้องประชาชนในท้องถิ่น เมื่อได้เข้าร่วมกิจกรรมการรณรงค์ครั้งนี้แล้ว ก็จะนำไปขยายผลเพื่อปลดล็อคท้องถิ่นให้ โดยเฉพาะการปลดล็อคในเรื่องของภาษีของรัฐบาล เพื่อให้ท้องถิ่นได้บริหารภาษีของตนเอง หากสามารถปลดล็อคท้องถิ่นได้ เชื่อว่า งบประมาณในท้องถิ่นเพิ่มขึ้น และอำนาจของผู้บริหารท้องถิ่นมากขึ้น สามารถบริหารจัดการได้หลายอย่าง เมื่อมีงบประมาณเพิ่มขึ้น อำนาจตามกฎหมายเพิ่มขึ้น การพัฒนาท้องถิ่นก็จะเกิดมากขึ้นอย่างแน่นอน