ชาวบ้านร้องสื่อหลังผู้เสียหายลุยหากล้องเอง หอบหลักฐานให้ตำรวจ แต่คดียังไม่คืบ

กาฬสินธุ์ ชาวบ้านร้องสื่อหลังผู้เสียหายลุยหากล้องเอง หอบหลักฐานให้ตำรวจ แต่คดียังไม่คืบแม้แต่น้อย ถูก 2 โจรเสื้อแดงลักรถมอเตอร์ไซค์สีแดงคันโปรด

กาฬสินธุ์ “เหลือแต่จะจับเอง” ผู้เสียหายหอบหลักฐานชิ้นสำคัญ ที่ลุยหาเอง ทั้งไล่กล้องวงจรปิดเอง ไล่ทามไลน์เอง ตั้งแต่วินาทีที่คนร้ายก่อเหตุ จนถึงปลายทางหมู่บ้านที่คนร้ายขับหลบมุมกล้องหายเข้าไปในหมู่บ้านที่อยู่ใกล้กันกับที่ก่อเหตุ นำหลักฐานทุกอย่างส่งมอบให้กับมือเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้าเลยแม้แต่น้อย จึงนำหลักฐานทุกอย่างเข้าร้องสื่อ หวังให้เป็นอีกแรงช่วยนำเสนอข่าว ให้ชาวโซเชียลได้ช่วยกันแจ้งเบาะแส เพราะคนร้ายอุกอาจบุกงัดบ้านถึง 2 ครั้งซ้อน

วันที่ 9 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ หลังจากผู้เสียหายและกลุ่มชาวบ้านหลายคนติดต่อร้องเรียน ถูกหัวขโมยคาดว่าไม่ต่ำกว่า 2 คน บุกรุกบ้าน เข้ามาขโมยทรัพย์สินหลายรายการไปแล้วถึง 2 ครั้งติดต่อกัน แจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปแล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 199 บ้านหัวงัว หมู่ 8 ตำบลยางตลาด อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์

นางธิดาวรรณ ประนัดทา อายุ 55 ปี เจ้าของบ้านสวนที่ถูกหัวขโมยบุกรุกเข้ามาลักทรัพย์สิน เปิดเผยว่า บ้านสวนไม่มีคนอยู่เนื่องจากคุณตาได้เสียชีวิตแล้ว ก็เลยปิดไว้มาประมาณ 1 ปีแล้ว พอมาวันที่ 20 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ก็มีขโมยอุกอาจมาบุกงัดบ้านเข้าไปขโมยทรัพย์สินไปได้จำนวนหนึ่ง ก็เลยทำการป้องกันบ้านเพิ่ม โดยการติดตั้งเหล็กดัด แล้วไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่สถานีตำรวจภูธรยางตลาด ร้อยเวรก็ได้ออกมาดูที่เกิดเหตุในวันนั้น บอกว่า จะพยายามหาคนร้ายให้ได้ แต่ก็เงียบไปเป็นเดือน ปรากฏว่าวันที่ 28 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา โจรยังได้ฮึกเหิมเข้ามางัดบ้านอีกครั้ง โดยไม่ได้เข้าทางเดิม เพราะเราทำการล็อคบ้านหลายชั้นมากขึ้นถึง 3 ชั้น โจรก็เลยทุบกระจกโดยใช้มีด ใช้เหล็กทุบกระจกหน้าต่างแล้วกระโดดเข้าไปใช้เท้ายันประตูออกมาจนเห็นเป็นรอยเท้าที่ประตู แล้วขนทรัพย์สินออกไป มีรถมอเตอร์ไซค์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีแดง ใส่ล้ออลูมิเนี่ยมสีทอง ทะเบียน ขวท 635 ชลบุรี ซึ่งเป็นรถสีแดงคันโปรดของคุณตาที่เสียชีวิต คาดว่าคนร้ายที่มางัดขโมยทรัพย์สินในครั้งนี้ประมาณ 3 คน ตามที่ดูในกล้องวงจรปิด

ผู้เสียหาย กล่าวอีกว่า ตอนเช้าของวันที่ 28 กันยายน 2568 จึงได้เดินทางไปลงบันทึกประจำวันอีกครั้งที่สถานีตำรวจภูธรยางตลาด ร้อยเวรก็ได้ออกมาดูแล้ว พนักงานสืบสวนก็ออกมาดูอีก พิสูจน์หลักฐานก็ได้ออกมาเก็บรอยนิ้วมือ ร้อยเวรก็ได้เก็บอุปกรณ์ที่คนร้ายใช้งัดบ้านส่งให้พิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ ปรากฏว่าคดีก็ยังไม่คืบหน้า หรือเป็นเพราะว่าตำรวจงานเยอะ มีหลายคดีอยู่ คดีของเราอาจจะเป็นคดีเล็ก ๆ ของตำรวจก็ได้ แต่เพราะทรัพย์สินเราถูกขโมย แม้แต่จานใบเดียวเราก็ไม่อยากให้ใครเอาไป ก็เลยไล่ตามกล้องวงจรปิดเองทุกอย่าง ไล่ไปเรื่อย ๆ ตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายใช้หลบหนี แล้วนำเอาหลักฐานทุกอย่างที่ประมวลผลแล้วส่งให้ตำรวจ ทั้งร้อยเวรเจ้าของคดี สายสืบ ทางสืบก็ได้โทร.มาบอกว่าหลักฐานยังไม่ชัดเจน ไม่สามารถจับกุมได้ มันจะมีปัญหาตามมาทีหลังได้ ตนเองจึงเกิดความสงสัย เพราะในเมื่อเราเอาอุปกรณ์ พยาน หลักฐานทั้งหมด จนรู้ว่าโจรเปลี่ยนเสื้อที่ไหน หนีไปทางไหน ทำไมตำรวจถึงล่าช้า ตำรวจทำไมถึงไม่ลงไปดูพื้นที่ที่คนร้ายใช้หลบหนี เพราะชาวบ้านแถวนี้บอกเป็นเสียงเดียวกันแล้ว ของหายก็ไม่เคยได้คืน ตนจึงเข้ามาร้องสื่อ ขออาศัยสื่อ ถ้าตำรวจเห็นข่าวนี้ก็อยากให้ช่วยเป็นหูเป็นตาช่วยตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีด้วย เพราะการกระทำอุกอาจและฮึกเหิมเกินไป ทำต่อเนื่องกันถึง 2 ครั้งแล้ว ชาวบ้านก็ได้รับความเสียหายหลายรายจากหัวขโมยกลุ่มนี้ ฝากให้ตำรวจอย่านิ่งเฉย ให้พยายามออกติดตามจับตัวคนร้าย เพราะตนเองก็ได้ไล่กล้องเองส่งมอบหลักฐานทุกอย่างให้แล้ว ตำรวจไม่ต้องมาไล่กล้องให้ลำบากแม้แต่น้อยเลย เพราะในกล้องเห็นแม้กระทั่งกลุ่มหัวขโมยใช้เชือกลากรถออกไปตามในคลิปเลย

ด้านนายกิ่งเพชร แสนสุข ผู้ใหญ่บ้านหัวงัว หมู่ที่ 8 เปิดเผยว่า ในหมู่บ้านของเราก็จะมีเหตุลักเล็กขโมยน้อยอยู่บ่อย ๆ ส่วนมากน่าจะเป็นคนมาจากที่อื่น เร็ว ๆ นี้ก็มีการขโมยมิเตอร์น้ำที่เทศบาล จึงป้องกันโดยการใช้ปูนโอบมอเตอร์ไม่ให้ขโมยไปได้ ยังจับไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่มากลางคืน จึงได้ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านรับทราบเพื่อป้องกันตัวแล้ว และได้ปรึกษากับคณะกรรมการหมู่บ้านว่าจะเอารูปแบบไหน จะจัดเวรยามออกลาดตระเวนในช่วงกลางคืนกี่รอบ แต่ส่วนใหญ่โจรจะมาช่วงหลังลาดตระเวน ช่วงตี 1 ตี 2 ที่คนกำลังหลับ

ผู้ใหญ่บ้านบ้านหัวงัวฝากถึงรัฐบาล หากมีมติให้มีการตั้งด่านชุมชนขึ้นมาเหมือนเดิม จะเป็นผลดีต่อพี่น้องประชาชนเป็นอย่างมาก อยากฝากถึงรัฐบาลให้ช่วยสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ต้องมีอุปกรณ์ ต้องมีเงินสนับสนุนในการใช้รถลาดตระเวนว่าจะมีแนวทางแบบไหนในการป้องกันโจรลักเล็กขโมยน้อย และยังจะช่วยแก้ปัญหายาเสพติดที่ระบาดอย่างหนักในขนาดนี้ได้อีกด้วย

งานนี้เป็นเพราะตำรวจกลัวโจร หรือโจรเป็นเพื่อนตำรวจ ชาวบ้านก็ฝากถึงตำรวจว่าอย่าปล่อยให้คนชั่วลอยนวน ถ้าตำรวจรักประเทศไทยก็ขอให้ดูแลซึ่งกันและกันด้วย เพราะพี่น้องประชาชนฝากทุกอย่างไว้กับตำรวจ เพราะท่านเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ของประเทศไทย

หากท่านใดพบเบาะแสกลุ่มคนร้าย สามารถแจ้งได้ที่สถานีตำรวจภูธรยางตลาด โทร. 043891350

คิวภาพ
– ทามไลน์คนร้ายที่ผู้เสียหายตามไล่กล้องเอง
– บ้านที่เกิดเหตุ
– สัมภาษณ์ นางธิดาวรรณ ประนัดทา ผู้เสียหาย
– สัมภาษณ์ นายกิ่งเพชร แสนสุข ผู้ใหญ่บ้านหัวงัว

ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
0821078177, 0622342888