หนุ่มใหญ่โร่เข้าแจ้งความเอาผิดสาวใหญ่อัดคลิปทำเสียหาย

กาฬสินธุ์ หนุ่มใหญ่โร่เข้าแจ้งความเอาผิดสาวใหญ่อัดคลิปทำเสียหาย

กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา เวลา 12.46 น. นายพศวัต อายุ 54 ปี ชาว ต.นามะเขือ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ได้เข้าพบ พ.ต.ท.เกียรติกร แสนแก้ว พนักงานสอบสวน สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับ น.ส.วลัยพรรณ ซึ่งได้นำคลิปวิดีโอที่มีภาพเคลื่อนไหวของผู้แจ้ง และมีข้อมูลบัตรประจำตัวประชาชนของผู้แจ้งนำไปโพสต์ในเฟสบุ๊ก โดยไม่ปกปิดเป็นเหตุให้ผู้แจ้งได้รับความเสียหาย โดยเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 ก.ย. 2568 เวลา 22.00 น. เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายจนกว่าคดีจะถึงที่สุด

โดยคลิปแรกสาวใหญ่ได้ถ่ายคลิปไว้โดยขึ้นแคปชั่นว่า “มาฟังๆเบิ่งนำกัน” เดินเข้าหาหนุ่มใหญ่ โดยมีคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นอยู่ด้วยอีก 4 คน เดินเข้าไปบอกให้หนุ่มใหญ่ที่ขับมอเตอร์ไซค์จอดอยู่ให้ถอดหมวกกันน็อคและผ้าปิดหน้าออก และให้แสดงบัตรประชาชน แล้วหนุ่มใหญ่คนในคลิปก็ได้บอกว่า “ผมไม่ได้มาเก็บเงิน ผมแค่มาเตือน” แล้วสาวใหญ่คนนี้ก็ได้ถ่ายหน้าบัตรประชาชนเอาไว้ แล้วเอาไปโพสต์เผยแพร่ในโซเชียลทำให้ได้รับความเสียหาย และมีชาวโซเชียลเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก จนมียอดวิวหลายล้านวิว

ล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังสถานีตำรวจภูธรสมเด็จ อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อพบกับผู้เสียหาย โดยผู้เสียหายได้ยืนไหว้พระพุทธรูปประจำสถานีฯ ยืนยันความบริสุทธิ์ใจในเรื่องที่เกิดขึ้น

นายพศวัต ผู้เสียหาย กล่าวว่า วันที่เกิดเหตุเป็นวันที่ 19 ก.ย. 2568 โดยตนเป็นพนักงานของซัฟท์ที่รับงานมาจากการไฟฟ้า ได้ไปทำงานตามปกติ ได้บอกให้เจ้าของบ้านดังกล่าวให้ไปช่วยเสียค่าไฟด้วย ไม่ได้มีหน้าที่ไปเรียกเก็บค่าไฟ และไม่ได้ไปตัดไฟแต่อย่างใด แล้วเจ้าของถามอีกว่าโอนได้ไหม ตนก็บอกว่าโอนได้ แต่ต้องโอนเข้าบัญชีธนาคารของการไฟฟ้า แต่ตัวเจ้าของบ้านผู้เป็นพ่อดันไปบอกลูกชายเขาว่าตนจะมาเก็บค่าไฟ ฟังความไม่จบ ลูกชายเขาเลยมาคุยกับตน ก็เลยบอกให้น้องเขาไปเสียที่การไฟฟ้า เสร็จแล้วจึงไปแจ้งเตือนอีกบ้านที่อยู่ติดกันให้ไปจ่ายค่าไฟลักษณะเดียวกัน พอขับรถย้อนกลับมาก็มาเจอรถกระบะสีขาว โบกรถให้ผมจอด พอจอดรถได้ก็มีกลุ่มคน 5-6 คนลงจากรถมารุมถ่ายคลิป ก็ยังไม่รู้เรื่องเหตุการณ์ตามในคลิป เพื่อความบริสุทธิ์ใจตนก็ถอดหน้า ให้ดูทั้งบัตรประชาชน แต่ไม่คิดว่าเขาจะเอาคลิปที่ถ่ายไว้ไปทำเรื่องแบบนี้ ก็เลยมาแจ้งความ ข้อหา หมิ่นประมาท เอาเราลงที่สาธารณะชน PDPA ส่วนข้อหาข่มขืนใจยังไม่ได้แจ้ง เพราะรู้สึกเสียหายมาก ยอดคนดูก็เยอะ บอกให้ลบเขาก็ไม่ลบ ถ้าลบก็ยังพอคุยกันได้ แถมยังโพสต์ต่อไปอีก 2-3 คลิปไปเรื่อย ๆ ไม่รู้หน้าที่การงานจะเป็นอย่างไรต่อไป

ผู้เสียหายกล่าวอีกว่า หน้าที่ของซัฟท์คือบริษัทเอกชนที่การไฟฟ้าให้รับเหมา เพราะคนของการไฟฟ้าอาจจะไม่เพียงพอก็ไม่ทราบ บริษัทเอกชนก็รับสมัครคนทั่วไปที่อยู่บริเวณใกล้เคียงพื้นที่นั้น ตนเองก็เลยมาสมัครเลยได้ทำงาน มีหน้าที่คือ 1.ออกใบเตือนเรื่องการตัดไฟ 2.สามารถถอดสายไฟได้ ทุกอย่างอยู่ที่ดุลพินิจ และสามารถยกหม้อได้ รายได้ก็ไม่ได้มากมาย เท่าที่รู้ ได้บิลละ 3 บาท ถ้าถอดสายได้ 15 บาท ถ้าถอดหม้อได้ 30 บาท ถ้าขยันก็ได้เยอะ ถ้าไม่ขยันก็ได้น้อย รวมรายได้ต่อเดือนก็ไม่ถึงหมื่น

ส่วนใหญ่ผู้ใช้ไฟก็ให้ความร่วมมือทุกคน เพราะเขารู้หมดแล้วว่าซัฟท์ไม่ได้ใส่ชุดการไฟฟ้า ไม่จำเป็นต้องเอารถการไฟฟ้าไปตัด สามารถใส่ชุดอะไรก็ได้ แค่แต่งตัวให้เรียบร้อย ใส่รองเท้าผ้าใบ ใส่เสื้อแจ็คเก็ต ให้ดูดี ไม่ให้ดูเป็นมิจฉาชีพ พูดจาสุภาพ ไปถามใครเขาก็รู้หมด ผมแค่มาเตือน ไม่คิดเก็บเงินใคร เพราะรักในหน้าที่ จึงขอฝากให้ทุกคนเข้าใจว่าตนเองมาทำงานนี้ก็เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว อายุขนาดนี้แล้ว ผมไม่เป็นมิจหรอกครับ เงินแค่พันสองพันจะไปเอาทำไม ฝากให้ชาวโซเชียลเข้าใจตนเองบ้าง ตนเองทำเพื่องาน คนดีจะได้มีกำลังใจทำงานกันบ้าง

หลังจากนั้นผู้เสียหายได้วิดีโอคอล เพื่อขอบคุณคุณเตชิน ผู้ที่คอยให้กำลังใจมาโดยตลอด ที่อยากให้ดำเนินคดีกับคนกลุ่มนั้นในข้อหาร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่น รวมทั้งกักขังหน่วงเหนี่ยวด้วยในวันนั้น คนแบบนี้ต้องเอาให้เข็ดหลาบ