กาฬสินธุ์ เจ้าของร้านผ้าไหมแพรวาบ้านโพน สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณพระบรมราชชนนีพันปีหลวง “ราชินีแห่งไหม” ผู้สร้างความเจริญให้ชาวกาฬสินธุ์โด่งดังไปทั่วโลก
เมื่อเวลาประมาณ 11.55 น. วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต โดยมีเนื้อหาว่า
ตามที่ได้มีประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2568 นั้น รัฐบาลได้รับทราบด้วยความโทมนัสยิ่ง จึงเห็นสมควรประกาศดังต่อไปนี้
1. ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐและสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
2. ให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์ มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป สำหรับประชาชนทั่วไป ขอให้พิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม
ต่อมาผู้สื่อข่าวพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เดินทางไปยังถิ่นกำเนิดของ “ราชินีแห่งไหม” ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริมและยกย่อง เป็นมรดกทางหัตถกรรมที่ชาวผู้ไทยในอำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ถ่ายทอดกันมากว่า 300 ปี ทำให้ชาวจังหวัดกาฬสินธุ์มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างที่เห็นในปัจจุบันนี้
นายบุญมาก บุตรผา (คุณตาบุญมาก) อายุ 78 ปี เจ้าของร้านบุญมากแพรวา บอกว่า สมัยนั้นเมื่อประมาณ 48 ปีที่แล้ว เคยไปถวายผ้าไหมแพรวาสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ จ.สกลนคร หลังจากนั้นก็ได้นำผ้าไหมแพรวาไปถวายพระองค์ท่านทุกปี ซึ่งพระองค์ท่านได้ให้ข้อคิดในการทำผ้าแพรวา แต่ก่อนผ้าแพรวาจะเป็นผ้าสไบเฉียงใช้พาดเบี่ยงในพิธีมงคลสมรส โดยพระองค์ท่านได้ให้คำแนะนำว่าให้ทำผ้าที่สามารถตัดชุดได้ เพราะถ้าหากทำเป็นเฉพาะผ้าสไบจะขายยาก หลังจากนั้นจึงได้ทำผ้าให้เป็นสมัยใหม่ โดยเฉพาะเอกลักษณ์ที่โดดเด่นคือการทอผ้า 1 ผืนให้ได้ 10 ลาย อย่างเช่นผ้าไหมแพรวาผืนนี้เป็นรุ่นบุกเบิก ที่ได้นำไปถวายพระองค์ท่าน จะออกโทนสีนี้คือโทนภูพาน ที่ตนเองเก็บไว้ 3-4 ผืน ไม่ขาย ถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ให้มีอาชีพทำกิน สร้างความเจริญให้ครอบครัวและชาวกาฬสินธุ์อย่างหาที่สุดมิได้
คุณจุ๋ม นางสาวกัลยา วงศ์วนิชโยธิน ลูกสาวเจ้าของร้าน บอกว่า ครอบครัวของเราอยู่ดีมีสุขได้มาทุกวันนี้ก็เพราะได้บารมีจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ท่านส่งเสริมมาตั้งแต่สมัยรุ่นคุณพ่อจนมาถึงทุกวันนี้ โดยพระองค์ท่านได้ส่งเสริมให้ชาวบ้านและชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ จนทุกวันนี้โด่งดังไปทั่วโลก ด้วยพระบารมีของพระองค์ท่าน รู้สึกซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านมาก ๆ ที่ช่วยให้เราได้มีอยู่มีกินจนถึงทุกวันนี้
คุณปรักทอง เวงวิถา อายุ 42 ปี หลังจากทราบเรื่องที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต รู้สึกเศร้าใจหาย ไม่คิดว่าพระองค์ท่านจะสวรรคตเร็วขนาดนี้ ตื่นมาก็เห็นข่าวแล้วใจหายยังไงไม่รู้ วันนี้จึงได้มาหาซื้อชุดไว้ใส่แสดงความอาลัยแด่พระองค์ท่าน
“ราชินีแห่งไหม” คือ ผ้าไหมแพรวา ซึ่งเป็นผ้าไหมทอมืออันเป็นเอกลักษณ์ของชาวผู้ไทยในจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้รับการขนานนามเช่นนี้เนื่องจากความงดงามของลวดลายที่สืบทอดมาจากภูมิปัญญาดั้งเดิม และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริมและยกย่อง เป็นมรดกทางหัตถกรรมที่ชาวผู้ไทยในอำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ถ่ายทอดกันมากว่า 300 ปี
เอกลักษณ์ความโดดเด่นของผ้า ผ้าไหมแพรวาเป็นผ้าที่มีความงดงามและความประณีตในการทอ มีลักษณะเด่นด้านลวดลายของผ้าที่มีกรรมวิธีการสร้างลวดลายด้วยการทอขิดและการทอด้วยการจกเส้นไหมหลากหลายสีเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดสีสันและลวดลายรูปแบบต่าง ๆ อีกทั้งลวดลายที่ปรากฏบนผืนผ้าก็มีความเรียบเนียนเป็นเนื้อเดียวกับพื้นของผืนผ้า การทอผ้าแพรวาจึงเป็นภูมิปัญญาชั้นสูงจนได้รับการยกย่องว่าเป็น “ราชินีแห่งไหม”
โดยเฉพาะผ้าไหมแพรวาของชุมชนบ้านโพนนับเป็นผ้าไหมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะกลุ่มและโดดเด่นจนกลายเป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งของ จ. กาฬสินธุ์ ในปัจจุบันผ้าแพรวาของชาวผู้ไทยถักทอขึ้นเพื่อใช้เป็นผ้าสไบหรือผ้าคลุมไหล่ทับชุดพื้นเมือง คำว่า “แพร” หรือ “ผ้าแพร” เป็นชื่อเรียกผ้าที่มีลักษณะเป็นผืนของชาวไทอีสานหรือไทลาวทั่วไป ส่วนคำว่า “วา” มีความหมายถึงขนาดความยาวของผ้าที่มีความยาว1 วา หรือประมาณ 2 เมตร ทั้งนี้เพราะผ้าแพรวาเดิมเป็นผ้าทอที่ชาวผู้ไทยใช้สำหรับการเบี่ยงสไบทับผ้าเสื้อสีพื้น จึงนิยมทอให้มีความยาวประมาณ 1 วา ของผู้ใช้
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com
