กาฬสินธุ์ ฝนหลงฤดู เกิดปรากฏการณ์ฟ้าหลังฝน สร้างภาพอัศจรรย์รุ้งกินน้ำ 2 ชั้น
กาฬสินธุ์ คำกล่าวที่ว่า “เห็นรุ้งกินน้ำ ห้ามเอานิ้วไปชี้” เป็นความเชื่อของคนโบราณที่มีเหตุผลมาจากความกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะหลังจากฝนตก เด็ก ๆ มักจะออกมาวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานในช่วงที่เกิดรุ้ง หากเด็ก ๆ เอานิ้วชี้ไปมาอย่างไม่ระวัง อาจเกิดอุบัติเหตุทำให้นิ้วจิ้มตาคนอื่นได้ คนโบราณจึงใช้คำพูดที่ทำให้ดูศักดิ์สิทธิ์และน่ากลัว (เช่น นิ้วจะกุด) เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ ทำเช่นนั้น
วันนี้ (31 ตุลาคม 2568) ช่วงเช้าตรู่ ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เกิดมีสภาพอากาศเริ่มเย็น พระอาทิตย์กำลังจะขึ้น บนท้องฟ้ามีกลุ่มก้อนเมฆบดบังดวงอาทิตย์ หลังจากนั้นไม่นาน ท้องฟ้ากลายเป็นสีทอง ส่วนช่วงตกเย็นมาเกิดมีลมพัด แล้วมีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้เกิดปรากฏการณ์ฟ้าหลังฝนเป็นรุ้งกินน้ำ 2 ชั้นอย่างที่เห็น
คุณสุนทร พหลทัพ ข้าราชเกษียณอายุราชการ ให้ความรู้แก่เด็กและเยาวชนเรื่อง “รุ้งกินน้ำ” ว่า ตามความเชื่อคนไทยโบราณมองว่า รุ้งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากฟ้าที่ลงมากินอาหารหรือกินน้ำหลังฝนตก และรุ้งจะปรากฏให้เห็นเป็นแถบสี 7 สีไล่หลังตามมา คือ สีม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง เนื่องจากแถบแสงสีทั้ง 7 สีเกิดเมื่อรุ้งลงมากินน้ำ จึงทำให้คนไทยเรียกว่า “รุ้งกินน้ำ”
รุ้งกินน้ำในภาษาบาลี-สันสกฤตคือคำว่า “อินทรธนู” เป็นคำสมาสจากการนำคำว่า “อินทร” ในภาษาสันสกฤต มีความหมายคือ พระอินทร์ มารวมกับคำว่า “ธนู” ในภาษาบาลี มีความหมายคือ อาวุธชนิดหนึ่ง ซึ่งประกอบด้วยคันธนู และลูกธนูปลายแหลม ถ้าหากเราแปลตรงตัว ความหมายจะแปลว่า “ธนูของพระอินทร์”
อย่างไรก็ตามกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง อากาศแปรปรวนบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 8 (315/2568) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 31 ตุลาคม – 2 พฤศจิกายน 2568) ในช่วงวันที่ 31 ต.ค. – 2 พ.ย. 68 ประเทศไทยตอนบน และภาคใต้ตอนบนจะมีสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และระนอง ซึ่งจะเริ่มในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคเหนือ และภาคใต้ตอนบนตามลำดับ
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com
