กาฬสินธุ์ พ่อเมืองกาฬสินธุ์สั่งติดตามสถานการณ์ไฟไหม้พื้นที่การเกษตร
สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์ได้รายงานผู้บังคับบัญชา เรื่อง ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้พื้นที่การเกษตร ในพื้นที่ตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
ด้วยวันที่ 10 ธันวาคม 2568 เวลาประมาณ 17.52 น. มีประชาชนการร้องเรียนเหตุเพลิงไหม้พื้นที่การเกษตร เขตตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ผ่าน Facebook มีความประสงค์ให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ต่อมา เวลา 18.30 น. นายสุวรรธณ์ เข็มธนเพ็ชร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์/ผู้อำนวยการจังหวัด มอบหมายให้อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบและควบคุมเพลิงไหม้ และรายงานผลการปฏิบัติดังกล่าวให้ทราบโดยด่วน
นายอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ได้มอบหมายให้ชุดปฏิบัติการฝ่ายปกครองตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ลงพื้นที่ตรวจสอบ พบเหตุเพลิงไหม้ สรุปได้ ดังนี้
พบเหตุเพลิงตอซังข้าว บริเวณทุ่งนา หมู่ที่ 5 ตำบลห้วยโพธิ์ อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ซึ่งอยู่ห่างจากถนนกาฬสินธุ์ – ร้อยเอ็ด ประมาณ 1 กิโลเมตร ไม่มีถนนให้รถดับเพลิงเข้าไปถึงจุดเกิดเหตุ ดังนั้นเจ้าหน้าที่ จึงได้ร่วมกันดับเพลิง และควบคุมเพลิงไว้ได้เวลา ประมาณ 20.30 น.
จากการตรวจสอบ พบว่า เหตุเกิดจากการเผาตอซังข้าวของเกษตรกร แต่ไม่พบตัวเกษตรกรเจ้าของพื้นที่ โดยพื้นที่มีการเผาไหม้จากเหตุดังกล่าว ประมาณ 4 ไร่
นายสุวรรธณ์ เข็มธนเพ็ชร ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์/ผู้อำนวยการจังหวัด สั่งการให้อำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้
1. ให้อำเภอทุกอำเภอ และเทศบาลเมืองทุกแห่ง ติดตามสถานการณ์ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งกำชับกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ปฏิบัติตามประกาศจังหวัดกาฬสินธุ์ เรื่องขอความร่วมมืองดเว้นการเผาในที่โล่ง และพื้นที่การเกษตร อย่างเคร่งครัด และรายงานผลการปฏิบัติการให้จังหวัดทราบอย่างต่อเนื่อง
2. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุก ภาคส่วน อำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ ข้อมูลจุดความร้อน มาตรการ แนวทาง ประกาศจังหวัดกาฬสินธุ์ ผ่านสื่อประชาสัมพันธ์ทุกช่องทางอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
3. ให้อำเภอทุกอำเภอ จัดชุดปฏิบัติการระดับตำบล (โดยมีปลัดตำบลเป็นหัวหน้าชุด) สร้างการรับรู้ โดยให้ผู้นำชุมชน/หมู่บ้าน ออกรณรงค์เคาะประตูบ้าน พบปะขอความร่วมมือเกษตรกรห้ามเผาในที่โล่ง และห้ามเผาอ้อย ทั้งก่อนตัดและหลังตัดอ้อย พร้อมชี้แจงข้อกฎหมายและโทษ ตลอดจนมาตรการของจังหวัดฯ หากฝ่าฝืนมีโทษตามกฎหมายทุกกรณี
4. ให้ท้องถิ่นจังหวัดกาฬสินธุ์ แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ในพื้นที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ออกประกาศกำหนดพื้นที่ควบคุมเหตุรำคาญ ให้ครบทุกแห่ง เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีอำนาจในการบังคับใช้กฎหมาย
5. จัดเตรียมกำลังพล พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้พร้อมปฏิบัติการตลอด 24 ชั่วโมง
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์/เลขานุการกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกาฬสินธุ์
ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com
