• อาทิตย์. มิ.ย. 15th, 2025

ครอบครัวฮุนเซน ใครคือทายาทอำนาจตัวจริงของกัมพูชา?

“ลูกไม้ใต้ต้นบางทีไม่ใช่แค่คล้าย แต่คือรากที่ถูกปักลึกตั้งแต่ต้น”

เมื่อพูดถึงประเทศกัมพูชา ภาพชายคนหนึ่งในสูทสีเข้ม แว่นดำกรอบใหญ่ พูดเร็ว มั่นใจ และอยู่ในอำนาจมานานกว่า 3 ทศวรรษ ยากที่จะไม่คิดถึงฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีที่ครองเก้าอี้มาตั้งแต่ปี 1985 และวางมืออย่างเป็นทางการเมื่อปี 2023 แต่ใช่หรือไม่ว่าการวางมือนั้นคือแค่การสลับมือ จากพ่อไปสู่ลูก?

ลูกชายคนโต: นายพลนักเศรษฐศาสตร์ ผู้ถือดาบและกระเป๋าเงิน

ฮุน มาเนต (Hun Manet) คือลูกชายคนโต ทายาทอำนาจอย่างเป็นทางการ จบการศึกษาจาก West Point โรงเรียนเตรียมนายร้อยของสหรัฐอเมริกา ต่อด้วยปริญญาโทจาก NYU และปริญญาเอกจาก University of Bristol สหราชอาณาจักร เขาไต่เต้ามาในระบบทหารของกัมพูชาอย่างรวดเร็ว สู่ตำแหน่งนายพลสี่ดาว และก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนสิงหาคม 2023

นอกจากบทบาทในด้านความมั่นคง ฮุน มาเนตยังขึ้นชื่อว่าเป็นมือวางอันดับหนึ่งด้านเศรษฐกิจ ด้วยความสามารถในการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งจีน เวียดนาม และภาคเอกชนระดับสากล

ลูกสาวคนโต: สื่อคืออาวุธ ผู้ครอบครองหน้าจอแห่งราชวงศ์

ฮุน มาเนีย (Hun Mana) ลูกสาวคนโตของฮุนเซน แม้ไม่ปรากฏตัวในสนามการเมืองโดยตรง แต่กลับมีอิทธิพลอย่างสูงในด้านสื่อ ด้วยตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของ Bayon TV สื่อกระบอกเสียงหลักของครอบครัวฮุน และเป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมภาพลักษณ์ทางการเมืองของระบอบเฮงเซนมาตลอดหลายปี

ลูกคนกลางและลูกคนรอง: สมรสทางการเมือง

ลูกคนอื่นๆ เช่น ฮุน มานี และ ฮุน มานิต มีบทบาทไม่เด่นชัดในสายตาสาธารณชน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือทั้งคู่สมรสกับทายาทของนักการเมืองระดับสูง เช่น ครอบครัวของ Hok Lundy และ Yim Chhaily ซึ่งทำให้สายใยอำนาจของตระกูลฮุนฝังลึกลงในเครือข่ายการเมืองอย่างแนบเนียน

ลูกบุญธรรม: เมื่อสายเลือดไม่ตรงแนวทาง

ฮุน มาลิส ลูกบุญธรรมที่เคยอยู่ภายใต้การดูแลของฮุนเซน ถูกปฏิเสธจากครอบครัวในปี 2007 หลังเปิดเผยตัวว่าเป็นเลสเบี้ยน เรื่องราวของเธอไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก แต่ถือเป็นบทสะท้อนหนึ่งของโครงสร้างครอบครัวการเมืองที่ยึดแนวทางแบบอนุรักษนิยมอย่างเข้มงวด

ใครกันแน่ที่ปกครองกัมพูชา?

ในทางรัฐธรรมนูญคือฮุน มาเนต แต่ในทางปฏิบัติ หลายคนยังตั้งคำถามว่าอำนาจนั้นเป็นของเขาจริงหรือยังคงมีพ่ออยู่เบื้องหลัง ระบบที่ออกแบบมาให้สืบทอดกันภายในสายเลือด ดูจะเป็นการประกันความมั่นคงทางการเมืองของครอบครัว มากกว่าการรับใช้ประชาชนตามหลักประชาธิปไตย

อำนาจของบ้านฮุนไม่ได้ถูกส่งผ่านการเลือกตั้ง แต่มาจากการคัดเลือกอย่างรอบคอบในห้องประชุมของครอบครัว และถ้าจะนิยามความมั่นคงในกัมพูชาวันนี้ ก็คงต้องพูดว่า “มั่นคงในเครือญาติ”

เพราะเลือดเขียนกฎหมายใหม่ได้เสมอ และเลือดของบ้านฮุนก็ยังไม่แห้ง

ข้อมูลจาก : https://themainstream.news/international/13967/