“ลูกไม้ใต้ต้นบางทีไม่ใช่แค่คล้าย แต่คือรากที่ถูกปักลึกตั้งแต่ต้น”
เมื่อพูดถึงประเทศกัมพูชา ภาพชายคนหนึ่งในสูทสีเข้ม แว่นดำกรอบใหญ่ พูดเร็ว มั่นใจ และอยู่ในอำนาจมานานกว่า 3 ทศวรรษ ยากที่จะไม่คิดถึงฮุนเซน อดีตนายกรัฐมนตรีที่ครองเก้าอี้มาตั้งแต่ปี 1985 และวางมืออย่างเป็นทางการเมื่อปี 2023 แต่ใช่หรือไม่ว่าการวางมือนั้นคือแค่การสลับมือ จากพ่อไปสู่ลูก?
ลูกชายคนโต: นายพลนักเศรษฐศาสตร์ ผู้ถือดาบและกระเป๋าเงิน
ฮุน มาเนต (Hun Manet) คือลูกชายคนโต ทายาทอำนาจอย่างเป็นทางการ จบการศึกษาจาก West Point โรงเรียนเตรียมนายร้อยของสหรัฐอเมริกา ต่อด้วยปริญญาโทจาก NYU และปริญญาเอกจาก University of Bristol สหราชอาณาจักร เขาไต่เต้ามาในระบบทหารของกัมพูชาอย่างรวดเร็ว สู่ตำแหน่งนายพลสี่ดาว และก้าวขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนสิงหาคม 2023
นอกจากบทบาทในด้านความมั่นคง ฮุน มาเนตยังขึ้นชื่อว่าเป็นมือวางอันดับหนึ่งด้านเศรษฐกิจ ด้วยความสามารถในการเชื่อมโยงเครือข่ายทั้งจีน เวียดนาม และภาคเอกชนระดับสากล
ลูกสาวคนโต: สื่อคืออาวุธ ผู้ครอบครองหน้าจอแห่งราชวงศ์
ฮุน มาเนีย (Hun Mana) ลูกสาวคนโตของฮุนเซน แม้ไม่ปรากฏตัวในสนามการเมืองโดยตรง แต่กลับมีอิทธิพลอย่างสูงในด้านสื่อ ด้วยตำแหน่งกรรมการผู้จัดการของ Bayon TV สื่อกระบอกเสียงหลักของครอบครัวฮุน และเป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมภาพลักษณ์ทางการเมืองของระบอบเฮงเซนมาตลอดหลายปี
ลูกคนกลางและลูกคนรอง: สมรสทางการเมือง
ลูกคนอื่นๆ เช่น ฮุน มานี และ ฮุน มานิต มีบทบาทไม่เด่นชัดในสายตาสาธารณชน แต่สิ่งที่น่าสนใจคือทั้งคู่สมรสกับทายาทของนักการเมืองระดับสูง เช่น ครอบครัวของ Hok Lundy และ Yim Chhaily ซึ่งทำให้สายใยอำนาจของตระกูลฮุนฝังลึกลงในเครือข่ายการเมืองอย่างแนบเนียน
ลูกบุญธรรม: เมื่อสายเลือดไม่ตรงแนวทาง
ฮุน มาลิส ลูกบุญธรรมที่เคยอยู่ภายใต้การดูแลของฮุนเซน ถูกปฏิเสธจากครอบครัวในปี 2007 หลังเปิดเผยตัวว่าเป็นเลสเบี้ยน เรื่องราวของเธอไม่ได้ถูกพูดถึงมากนัก แต่ถือเป็นบทสะท้อนหนึ่งของโครงสร้างครอบครัวการเมืองที่ยึดแนวทางแบบอนุรักษนิยมอย่างเข้มงวด
ใครกันแน่ที่ปกครองกัมพูชา?
ในทางรัฐธรรมนูญคือฮุน มาเนต แต่ในทางปฏิบัติ หลายคนยังตั้งคำถามว่าอำนาจนั้นเป็นของเขาจริงหรือยังคงมีพ่ออยู่เบื้องหลัง ระบบที่ออกแบบมาให้สืบทอดกันภายในสายเลือด ดูจะเป็นการประกันความมั่นคงทางการเมืองของครอบครัว มากกว่าการรับใช้ประชาชนตามหลักประชาธิปไตย
อำนาจของบ้านฮุนไม่ได้ถูกส่งผ่านการเลือกตั้ง แต่มาจากการคัดเลือกอย่างรอบคอบในห้องประชุมของครอบครัว และถ้าจะนิยามความมั่นคงในกัมพูชาวันนี้ ก็คงต้องพูดว่า “มั่นคงในเครือญาติ”
เพราะเลือดเขียนกฎหมายใหม่ได้เสมอ และเลือดของบ้านฮุนก็ยังไม่แห้ง
ข้อมูลจาก : https://themainstream.news/international/13967/