• เสาร์. พ.ย. 9th, 2024

กาฬสินธุ์ จัดพิธีสักการะพระประชาชนบาลอย่างยิ่งใหญ่ ในงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ สักการะพระประชาชนบาล นมัสการพระพรหมภูมิปาโล ครั้งที่ 20

กาฬสินธุ์ วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2567 ที่ลานอนุสาวรีย์พระประชาชนบาล ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ พระครูสิริพัฒนนิเทศก์ ดร.เจ้าคณะอำเภอสหัสขันธ์ นางสาวแววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ นายจารุวัตร ภูแก้ว นายอำเภอหนองกุงศรี นางเฉลิมขวัญ หล่อตระกูล นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ นายบุญมี แก่นนาคำ นายกเทศมนตรีตำบลโนนบุรี หัวหน้าส่วนราชการ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ประชาชน และนักท่องเที่ยว ได้ร่วมกันจัดพิธีสักการะพระประชาชนบาล เนื่องในงานประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะ สักการะพระประชาชนบาล นมัสการพระพรหมภูมิปาโล ครั้งที่ 20 ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 23 – 27 ตุลาคม 2567 ณ บริเวณลานธรรมเชิงเขาภูสิงห์ และวัดพุทธาวาสภูสิงห์ ต.โนนบุรี อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์

โดยกิจกรรมในวันนี้เป็นวันที่สอง เป็นพิธีถวายเครื่องสักการะ นำขันหมากเบ็ง ตั้งขบวนแห่เจ้าเมืองสหัสขันธ์จากสนามกีฬากลางอำเภอสหัสขันธ์มายังลานอนุสาวรีย์พระประชาชนบาล โดยมีขบวนแห่เจ้าเมืองจาก 8 ตำบล มีนางรำจากทุกตำบลจาก 85 หมู่บ้าน จำนวนกว่า 1,000 คน ร่วมกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มหาวชิราลงกรณบดินทรเทพยวรางกูล รัชกาลที่ 10 ในวโรกาสเฉลิมพระเกียรติพระชนมพรรษา 6 รอบ พร้อมรำสักการะพระประชาชนบาล โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้สนับสนุนงบประมาณในการจัดงานครั้งนี้ จำนวน 250,000 บาท

จึงได้เห็นเป็นภาพบรรยากาศของงานที่เป็นภาพมุมสูงจากอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) ที่บันทึกไว้ได้อย่างสวยงาม ยิ่งใหญ่อลังการ โดยจะมีการจัดพิธีประเพณีตักบาตรเทโวโรหณะขึ้นในวันเสาร์ที่ 26 ตุลาคมที่จะถึงนี้ ตั้งแต่เวลา 07.19 น. เป็นต้นไป โดยจะมีขบวนเทวดา นางฟ้า นำคณะสงฆ์เดินลงบันไดสวรรค์ เพื่อรับอาหารบิณฑบาต จำนวน 299 รูป จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร ข้าวสาร อาหารแห้ง ในวันดังกล่าวโดยพร้อมเพรียงกัน

อย่างไรก็ตามประเพณีหรือบุญตักบาตรเทโวโรหณะ คือ การทำบุญตักบาตร ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 เนื่องในโอกาสที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากเทวโลก คำว่า เทโว ย่อมาจากคำว่า เทโวโรหนะ ซึ่งแปลว่า การเสด็จลงจากเทวโลก ความเดิมมีว่าในพรรษาที่ 7 นับแต่วันตรัสรู้พระพุทธเจ้าเสด็จไปจำพรรษาอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อเทศน์โปรดพระพุทธมารดา จนบรรลุโสดาปัตติผล ครั้นออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 แล้วจึงเสด็จลงจากเทวโลกที่เมืองสังกัสสะนคร ในกาลที่เสด็จลงจากเทวโลก ได้มีเนินเป็นอันเดียวกันจนถึงพรหมโลก เมื่อทรงแลดูข้างล่าง สถานที่นั้นก็มีเนินอันเดียวกันจนถึงอเวจีมหานรก ทรงแลดูทิศใหญ่และทิศเฉียง จักรวาลหลายแสนก็มีเนินเป็นอันเดียวกัน เทวดาก็เห็นพวกมนุษย์ แม้พวกมนุษย์ก็เห็นเทวดา สัตว์นรกก็เห็นมนุษย์และเทวดา ต่างก็เห็นกันเฉพาะหน้าทีเดียว ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงเปล่งฉัพพรรณรังสีขณะที่พระองค์เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ รุ่งขึ้นวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11

ขอบคุณภาพมุมสูงจาก พิทักษ์ ภูโททิพย์

ตระกูล ภูพวงเพชร /รายงาน
www.kalasinnews.com