กาฬสินธุ์ เพจดังแฉสาวกาฬสินธุ์หลอกเช่ารถแต่เชิดรถหนี แจ้งความ 5 เดือนคดีไม่คืบ พบยังกินหรูอยู่สบาย ส่วนเจ้าของรถผ่อนกุญแจมา 5-6 เดือนแล้ว
กาฬสินธุ์ เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2568 เวลา 22.40 น. ที่เพจดังเพจหนึ่ง ได้โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความว่า “เจ้าของรถเช่า #นครพนม ร้องสื่อ สาวห้วยเม็ก #กาฬสินธุ์ หลอกเช่ารถอ้างจะไปส่งลูก ก่อนเชิดรถหนี แจ้งความ 5 เดือนคดีไม่คืบ ต้องสืบเองพบกินหรูอยู่สบาย”
สืบเนื่องจากวันที่ 15 กันยายน 2567 เวลา 13.40 น. น.ส.เบญจวรรณ อายุ 40 ปี ชาวอำเภอห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้ติดต่อขอเช่ารถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด หมายเลขทะเบียน กพ-5878 สกลนคร ที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีสงครามรถเช่า หมู่ 26 ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม อ้างว่าจะไปส่งลูกที่จังหวัดขอนแก่น แล้วจะนำรถมาส่งคืนที่ห้างหุ้นส่วนจำกัดศรีสงครามรถเช่า จ.นครพนม แต่ปรากฏว่าหลังจากนำรถไปมีการไปถอดสัญญาณ GPS ที่อู่รถแห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ดและขาดการติดต่อ ไม่นำรถมาส่งคืนตามที่นัดหมายในวันที่ 16 กันยายน 2567 จึงได้ไปแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.ศรีสงคราม ซึ่งมีการออกหมายจับแล้วแต่ยังไม่สามารถติดตามตัว น.ส.เบญจวรรณ ได้ จึงวอนให้ตำรวจช่วยเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุ เนื่องจากผ่านมาเกือบ 5 เดือนแล้ว และพบว่ายังมีความเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดียกินหรูอยู่สบาย ส่วนญาติปัดให้ความร่วมมือ และทราบข้อมูลมาว่า คนใกล้ชิดของผู้ก่อเหตุเป็นตำรวจ จึงกลัวคดีไม่คืบหน้าและกลัวจะไม่ได้ทรัพย์สินคืน และอยากฝากให้ตำรวจกาฬสินธุ์ช่วยติดตามตัว
และที่เฟสบุ๊กบัญชีผู้ใช้ชื่อ Tawadchai Udomlab ได้โพสต์คลิปพร้อมข้อความว่า “ประกาศ!!ตามจับ บุคคลตามภาพ นางสาวเบญจวรรณ ชื่อเล่นป๊อก มีหมายจับจาก สภ.ศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ภูมิลำเนาเป็นคนอำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งมีพฤติกรรมตระเวนเช่ารถยนต์ตามจุดให้เช่ารถในจังหวัดต่างๆแล้วนำรถยนต์ส่งขายต่างประเทศและมีพฤติกรรมหลอกลวงให้ผู้อื่นร่วมลงทุนผู้มีเสียหายหลายร้อยรายมูลค่าความเสียหายหลายล้านบาท ซึ่งการกระทำของบุคคลดังกล่าวจะทำเป็นขบวนการมีผู้ร่วมกระทำผิดหลายสิบคนจะตะเวณหาเหยื่อในเขตภาคอีสาน ปัจจุบันมีผู้เสียหาย แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนแล้วในหลายพื้นที่ อาทิในจังหวัดร้อยเอ็ด จังหวัดกาฬสินธุ์ จังหวัดสกลนคร จังหวัดนครพนม จังหวัดมหาสารคาม เป็นต้น ผู้ใดมีข้อมูลของบุคคลดังกล่าวขอให้แจ้งสถานีตำรวจภูธรศรีสงคราม จังหวัดนครพนม โทร 042-599-177 หรือ 088-508-8988 สารวัตรพงษ์ หรือสถานีภูธรตำรวจห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์ โทร 093-119-7875 ร.ต.ต.สมจิต และสถานีตำรวจทั่วประเทศ ช่วยกันครับทุกท่านอย่าให้คนไม่ดีต้องอยู่ในสังคมเรา ให้เขาต้องได้รับโทษตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไปครับ พบเห็นบุคคลดังกล่าวแจ้ง 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมงนะครับ #ที่นี่ศรีสงคราม”
ล่าสุดวันนี้ (5 มี.ค. 2568) ซึ่งเป็นวันนักข่าว ผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ หลังจากได้ทราบเรื่องดังกล่าวที่เป็นความทุกข์ร้อนของชาวบ้าน ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ติดต่อไปยังบ่าวโต้ง นครพนม ที่ได้โพสต์ไว้ว่า “รถหายหลายเดือนแล้วแจ้งด้วยนะครับ รถฟอร์ดทะเบียน 5878 สกลนคร มีค่าน้ำครับ 0654863289, 0638329727 บ่าวโต้งนครพนม บอกน้องคนนี้ให้เอามาคืนผมด้วยครับ คิดถึงความทุกข์ใจพี่ด้วย น้องเบญจวรรณ อยู่อำเภอห้วยเม็ก จังหวัดกาฬสินธุ์”
บ่าวโต้ง หรือคุณธรรมธัช อายุ 44 ปี ชาวอำเภอนาหว้า จ.นครพนม เจ้าของรถ ได้ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า วันที่ 15 ก.ย. 2567 เวลาประมาณ 13.40 น. น.ส.เบญจวรรณ ชาวอำเภอห้วยเม็ก อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ได้มาเช่ารถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ดคันดังกล่าว ที่ตนเองนำรถไปเข้าร่วมโครงการรถเช่า จากห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีสงครามรถเช่า เลขที่ 21 หมู่ 26 ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม เพื่อเดินทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์ และได้นัดส่งมอบรถคืนในวันที่ 16 ก.ย. 2567 เวลา 13.40 น. แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาแล้ว น.ส.เบญจวรรณ ไม่นำรถมาส่งคืนและไม่สามารถติดต่อได้ และยังพบว่าสัญญาณ GPS ที่ติดไว้ในรถคันดังกล่าวถูกถอดออกในอู่แห่งหนึ่งในจังหวัดร้อยเอ็ด จึงได้เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.จรินทร์ พิมพ์จันทร์ พนักงานสอบสวนเวร สภ.ศรีสงคราม เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานไว้แล้ว
บ่าวโต้งยังบอกอีกว่า ตอนนี้ผ่อนกุญแจมา 5-6 เดือนแล้ว ตอนนี้ตำรวจได้ออกหมายจับและอยู่ระหว่างตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดี จึงอยากให้ น.ส.เบญจวรรณ หรือคุณป๊อก ออกมารับสารภาพ เพราะผู้ต้องหาบอกว่านำรถคันดังกล่าวมาคืนแล้ว แต่ทำไมตนเองที่เป็นเจ้าของรถยังไม่รู้จัก รถก็ยังไม่ได้คืน ได้เดินทางตามมาหาที่จังหวัดกาฬสินธุ์ ไปที่บ้านตามที่อยู่ในบัตรประชาชน คนในบ้านก็ไม่ให้ความร่วมมือ บอกว่าให้ไปตามหาสืบเอาเลยไม่เกี่ยวกัน จึงได้สอบถามชาวบ้านในพื้นที่คร่าวๆ ทราบมาว่าสาวคนนี้ทำเป็นแก๊ง เอารถมาหลายคันแล้ว พื้นเพสาวคนนี้เป็นคน อ.กระนวน จ.ขอนแก่น แต่มาเปิดร้านกับสามีที่ อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ จึงอยากขอให้สื่อมวลชนหรือนักข่าวช่วยตีแผ่เรื่องนี้ เพื่อเตือนภัยสังคม ให้ระมัดระวังสาววัย 40 ปีคนนี้ที่แผงตัวเป็นมิจฉาชีพ
อย่างไรก็ตามยังพบว่าเพจดังหลายๆ เพจ ก็ได้ช่วยกันโพสต์ช่วยกันแชร์เรื่องนี้กันอย่างแพร่หลาย แต่ตำรวจก็ยังไม่สามารถตามตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีได้ และหากเจ้าตัวอยากออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ ก็สามารถติดต่อมายังสำนักข่าวได้ตลอดเวลา