• ศุกร์. พ.ย. 7th, 2025

คืบหน้า เจ้าของศูนย์เรียนรู้บ้านไร่สวนสุข ร้องสื่อถูกคู่กรณีปิดทางเข้าออก

กาฬสินธุ์ เจ้าของศูนย์เรียนรู้บ้านไร่สวนสุข ร้องสื่อถูกคู่กรณีปิดทางเข้าออก ล่าสุดมีความคืบหน้า พบเป็นถนนในที่ สปก. ใช้ร่วมกัน 12 ปีไม่มีความหมาย ถูกปิดป้ายห้ามเข้า ทนาย 9 บาทช่วยไกล่เกลี่ย

เจ้าของศูนย์เรียนรู้บ้านไร่สวนสุข ร้องสื่อถูกคู่กรณีปิดทางเข้า-ออก ทั้งที่ก่อนหน้านี้เมื่อ 12 ปีก่อน ลงนามเซ็นสัญญาใช้ทางเข้า-ออกร่วมกัน แต่หลังจากซื้อที่ดิน สปก.แปลงเจ้าปัญหา จากญาติ กลับไถ่กลบปิดทางเข้า-ออก ติดป้ายห้ามผ่าน ส่งผลให้ คนแก่เจ็บป่วยต้องไปหาหมอตามนัด และเด็กนักเรียนไปเรียนไม่ได้ อีกทั้งคณะศึกษาดูงาน ทั่วไปไม่สามารถเข้าไปศึกษาเรียนรู้ได้ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุดวันนี้ (6 พ.ย. 2568) ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ไปพร้อมกับทนายจิตอาสา ฉายา “ทนาย 9 บาท” ไปยังจุดที่มีประเด็นปัญหา ที่ได้รับความสนใจจากประชาชนที่รอติดตามความคืบหน้าอยู่ โดยมี นายจักรกฤษณ์ ปรีกุล ปลัดอาวุโส อำเภอท่าคันโท เป็นประธาน เชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะคู่กรณีที่มีข้อถกแย้งกันมาร่วมกันหาทางออกที่ดีที่สุด ไม่ให้กระทบความรู้สึกในอดีตของคนในชุมชน

ที่สุขศาลาบ้านนาบอน ตำบลยางอุ้ม อำเภอท่าคันโท จังหวัดกาฬสินธุ์ ชาวบ้านกว่า 30 คน ได้มาร่วมแสดงความคิดเห็น เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนคติ หลังจากที่มีการเกิดข้อโต้แย้งระหว่างคนในหมู่บ้านเดียวกันแท้ ๆ แต่ยังตกลงกันไม่ได้มาตลอด ทั้งที่เคยมีเวทีเจรจาแต่ก็ยังหาทางออกไม่ได้มาแล้วหลายครั้ง ทำให้วันนี้เกิดมิติใหม่ เพราะมีภาคีเครือข่ายเข้าร่วมพูดคุย เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดร่วมกัน ไม่ให้ใครได้เปรียบเสียเปรียบ ไม่มีใครได้หน้าเสียหน้า ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างถ้อยทีถ้อยอาศัยอย่างมีความสุข โดยมีประเด็นสำคัญคือมีการโพสต์ร้องเรียนในโซเชียลที่เจ้าของศูนย์เรียนรู้ได้โพสต์แล้วทางเจ้าของที่ที่อยู่ติดกันยังติดใจว่าอยากให้ลบโพสต์เพื่อแสดงความบริสุทธ์ใจแต่ยังไม่มีการลบโพสต์แต่อย่างใด

นางชื่นกลม ปิ่นธุลี หรือคุณเจี๋ยบ เจ้าของศูนย์เรียนรู้บ้านไร่สวนสุข เปิดเผยว่า เคยใช้ทาง (ถนน) นี้มาแล้ว 12 ปี และมีสัญญาใจใช้ทางร่วมกัน แต่จู่ ๆ หลังจากเจ้าของที่จุดนั้นได้ไปซื้อสิทธิกลับมาไถทางออก แถมทำแนวกั้นรั้วห้ามผ่าน เป็นที่ส่วนบุคคล และยังใช้วาจาไม่สุภาพบอกด้วยว่า “อีเจี๋ยบ” ที่ผมผมจะทำอะไรก็ได้ ก็เลยโมโหและใช้วาจาเรียกคืนว่า “บัก” เหมือนกัน เกิดการโต้เถียงกันเกิดขึ้น หลังจากนั้นคู่กรณีก็ได้เกณฑ์พี่น้องกันมาตะโกนรุมด่า เอารถมาดริ๊ฟอยู่หน้าบ้าน ก็เลยเป็นห่วงความปลอดภัย เพราะเป็นคนต่างจังหวัดที่หวังมาพึ่งพาอาศัยในจังหวัดกาฬสินธุ์ เคยร้องเรียนไปแล้วหลายครั้ง ทำให้คนที่จะมาศึกษาดูงานที่ทำโครงการข้ามปีมาแล้วเข้ามาศึกษาดูงานไม่ได้

นายจักรกฤษณ์ ปรีกุล ปลัดอาวุโส อำเภอท่าคันโท รักษาราชการแทนนายอำเภอท่าคันโท กล่าวว่า วันนี้คู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายก็ได้มาคุยกัน ทางนายก อบต.ยางอุ้ม เจ้าของพื้นที่ก็มา ทนายความ ปลัดอำเภอศูนย์ดำรงธรรม ปลัดประจำตำบลก็มา กรณีนี้มีแนวทางแรกคือพื้นที่ที่มีปัญหากันไม่สามารถตกลงกันได้ ทั้ง 2 ฝ่ายยังตกลงกันไม่ได้ แนวทางที่ 2 มีทางออก ซึ่งทางนายไพรวรรณ ทองคำ นายกเทศองค์การบริหารส่วนตำบลยางอุ้ม รับปากว่าจะมาทำการซ่อมแซมถนนให้ ให้ใช้ทางออกได้หลาย ๆ ทางเพื่อแก้ไขปัญหานี้

ด้านทนายจิมมี่ นายกฤษฎา เวียงวะลัย หรือฉายา ทนาย 9 บาท เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้ลงพื้นที่ก็ทราบว่าจะมีฝ่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาพูดคุยและเปิดทางเข้าออกอีกทางให้กับศูนย์เรียนรู้ที่ถูกปิดทาง ส่วนรูปแบบของการใช้พื้นที่ สปก.ร่วมกันนั้น ได้สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่ สปก.แล้ว ทราบว่าทาง สปก.ได้ลงพื้นที่แล้ว พบว่าทางที่เกิดข้อพิพาธเป็นทางเดิมอยู่แล้ว ทาง สปก.บอกว่าควรจะเรียกมาทำข้อตกลงใหม่ กั้นที่ให้เป็นทางสาธารณะใช้ร่วมกัน ให้ประชาชนทุกคนใช้ประโยชน์ร่วมกันได้

ล่าสุดเจ้าของศูนย์การเรียนรู้ฯ ได้โทร.แจ้งผู้สื่อข่าวว่าได้ทำการลบโพสต์ในสื่อโซเชียลทั้งหมดแล้ว เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และหวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมในการเข้าเจรจาหารือในครั้งนี้ และขออยู่ร่วมกันกับชาวบ้านเพื่อสร้างเป็นแหล่งเรียนรู้ที่มีผู้คนจากทั่วประเทศจองคิวข้ามปีเข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ตามปกติอย่างสะดวกต่อไป

ระหว่างการสนทนายังพบว่าต่างฝ่ายต่างแสดงความคิดเห็น ที่คาดว่าทุกฝ่ายน่าจะอัดอั้นมานานแล้ว แต่พอมีคนกลางอย่างปลัดอำเภอ, นายกฯ, ทนาย 9 บาท และผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ จึงค่อยประณีประณอมเข้าหากัน

ปิดโหมดสีเทา