กาฬสินธุ์ เจ้าของธุรกิจบ้านน็อคดาวน์ชื่อดัง รับปากลูกค้าที่จองไว้ได้ทุกคน
กาฬสินธุ์ เจ้าของธุรกิจบ้านน็อคดาวน์ชื่อดังระดับประเทศ โดนพิษเศรษฐกิจจนล้มจนเคยคิดฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้ง ขอโอกาสลูกค้าที่ยังค้างอยู่ 38 ออเดอร์ จะทยอยทำให้เสร็จตามมาตรฐาน ส่งมอบให้ครบทุกหลังไม่เกิน 2 ปี
จากที่มีกระแสดราม่าในโลกโซเชียล ที่มีคนมาคอมเม้นท์แสดงความคิดเห็นในเพจ “บ้านสำเร็จรูปโมเดิร์น หจก.สมเด็จโมเดิร์นโฮม” และในกลุ่มไลน์ ที่คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มลูกค้า ที่ต่างแสดงความคิดเห็นว่าติดต่อเจ้าของเพจไม่ค่อยได้ เพราะเป็นลูกค้าที่ทำสัญญาสร้างบ้าน บางคนบอกว่าจ่ายเงินไปแล้วบางส่วน บางคนบอกว่าจ่ายเงินไปครบแล้วแต่ไร้วี่แววจะได้บ้าน
ล่าสุดวันนี้ (27 พฤศจิกายน 2568) ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้เดินทางไปยัง หจก.สมเด็จโมเดิร์นโฮม อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ พบกับเสี่ยเบียร์ เจ้าของกิจการอยู่ให้ข้อมูลถึงกระแสดราม่าของเรื่องนี้
เสี่ยเบียร์ นายจิรายุ วัย 50 ปี เจ้าของ หจก.สมเด็จโมเดิร์นโฮม เปิดเผยว่า วงการรับสร้างบ้านจะรู้จักกันดีเพราะทำกิจการตรงนี้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงมากว่า 16 ปี กิจการก็ราบรื่นมาโดยตลอด เพราะจบสถาปนิกมาโดยตรง ดีไซน์บ้านออกแบบบ้านเอง จนปลายปี 2566 เคยมีพนักงานถึง 500-600 คน มีลูกค้าจากทั่วประเทศเดินทางมาสั่งบ้านถึงที่นี่ พอมาถึงปี 2567 เราเริ่มเห็นสถานการณ์เกิดวิกฤตที่เกิดทั่วโลก ตั้งแต่เกิดสงคราม ทำให้มีผลกระทบกับนักธุรกิจที่ทำโรงงานหลาย ๆ ราย ทำให้ปิดตัวไปกันหมด แต่ตนเองก็พยายามจะสู้เพื่อไปต่อให้ได้ โดยในปี 2567 เราไม่มียอดสั่งบ้านเข้ามาเลย จึงนำเอาเงินที่เก็บไว้มาซับพอร์ตเพื่อจะพยุงกิจการตัวเอง เพื่อให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ ก็ขายทรัพย์สินทุกสิ่งทุกอย่างที่มี เพื่อซื้อวัสดุ จ่ายคนงาน ที่มีเหลืออยู่ 400-500 คน สามารถส่งบ้านให้ลูกค้าได้ทั้งหมด 50 หลัง
เสี่ยเบียร์ บอกอีกว่า เราคิดปลอบตัวเองในใจว่าภายในปี 2568 เศรษฐกิจน่าจะกลับมาดีขึ้นแต่ก็ไม่ใช่ มันกลับกลายเป็นแย่ยิ่งกว่าปี 2567 เพราะยอดซื้อยอดขายในประเทศไทยตกฮวบฮาบไปหมด GDP ที่วัดได้ง่ายที่สุดตั้งแต่ต้นปี 2568 คือ ห้างโกลบอล หรือ ไทวัสดุ ที่ขายสินค้าวัสดุสร้างบ้านเงียบเหมือนป่าช้า
เคยมีธนาคารมายื่นข้อเสนอให้กู้ถึง 100 ล้านบาท โชคดีที่ตนเองไม่ได้กู้ธนาคารแม้แต่สลึงเดียว เพราะเคยคิดในใจว่าการเป็นหนี้ธนาคารอาจจะดีในบางส่วน ที่สามารถต่อยอดธุรกิจ แต่ถ้าหากวันหนึ่งถ้าธุรกิจเกิดเศรษฐกิจไม่ดี ล้มทั่วประเทศ ตัวนี้ไม่สามารถที่จะช่วยได้ กลายเป็นภาระหนี้สิน แต่ตนเองใช้เงินลูกค้าหมุนหน้างานตลอด แต่ก็มาเจอวิกฤตเศรษฐกิจปี 2568 จนทำให้ตนเองเคยคิดฆ่าตัวตายถึง 2 ครั้ง แต่คิดให้กำลังใจตัวเองว่าอย่าคิดแต่ปีนี้ เรายังมีโอกาสใช้ชีวิตในปี 2569, 2570 และปีต่อ ๆ ไป ถ้าผ่านพวกนี้ไปอาจจะกลับมาดียิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยซ้ำไป เรายังมีชีวิตอยู่เราต้องสู้ ยังมีโอกาสลุกขึ้นมาเดินใหม่ได้ ตนเองอาจจะอยู่ได้อีกถึง 30 ปี
เสี่ยเบียร์เปิดเผยถึงจุดเริ่มต้นของการเข้าสู่ธุรกิจสร้างบ้านว่า เริ่มต้นมีแต่เครื่องอ๊อก มีแต่เครื่องเจียร ทำบ้านเองคนเดียวขายคนแรก มีเงินติดตัวแค่ 50 บาท และเป็นเจ้าแรกๆ ของประเทศที่มีของตนเองและของชลบุรีเท่านั้นที่รับสร้างบ้านน็อคดาวน์
เสี่ยเบียร์ยกมือไหว้ฝากถึงลูกค้าที่ยังเหลืออยู่อีก 38 รายว่า ตอนนี้หน้างานไม่มีงานใหม่ มีแต่งานเก่าที่ค้างอยู่ ตอนนี้กำลังทยอยทำส่งลูกค้า ลูกค้ารอนะครับคุณเบียร์ไม่หนีหายไปไหน ยังปักหลักอยู่ตรงนี้เพื่อทำบ้านให้ลูกค้าแล้วเสร็จทุกหลัง ไม่ต้องเป็นกังวล ด้วยความซื่อสัตย์ซื่อตรง เพราะตนคิดว่าการเอาเงินคนอื่นมาแล้วไม่ทำให้เขา ถ้าไปโกงเขาแล้วชีวิตก็ไม่ดีขึ้น ทำมาค้าขายก็ไม่ขึ้น แต่ขอโอกาสคุณเบียร์เพื่อฟื้นฟูตัวเอง ก็มีลูกค้าหลายรายที่เห็นใจและเข้าใจ ก็เลยขอเวลาลูกค้าไม่เกิน 2 ปี ก็จะสร้างให้เสร็จ ถ้าเศรษฐกิจมันดีขึ้น ถ้ามีเงินหมุนเวียน จึงได้เขียนใบขอเวลาเพิ่มเติมกับลูกค้าหลายราย เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะพูดคำเดียวกันเลยว่าอยากได้บ้านของแบรนด์สมเด็จโมเดิร์นโฮม เพราะเราทำโครงสร้างที่แข็งแรง มีอายุการใช้งานยาวนาน 45 – 50 ปี มีใบรับประกันให้ 20 ปี แม้ทองคำจะขึ้นราคา ราคาวัสดุจะขึ้นราคา ตนเองยอมทำบ้านขาดทุนให้ลูกค้าทุกหลัง ยังคงมาตรฐานใช้ของใช้เหล็กตามมาตรฐานเดิม ไม่เคยลดสเปก เพราะตั้งแต่ทำมาหลังการขายยังไม่มีลูกค้าโทร.มาร้องเรียนเลย จึงขอความเห็นใจลูกค้าที่เหลือใน 38 หลัง ขอให้รอต้นปี 2570 น่าจะเคลียร์ได้ทั้งหมด แต่ถ้าเศรษฐกิจดีในปีหน้าอาจจะส่งมอบได้หมดในปี 2569
สิ่งหนึ่งที่สามารถนำมาช่วยธุรกิจในช่วงนี้ได้ก็คือ “พระเครื่อง” เพราะสะสมไว้เยอะ โดยตนเองจะหาไปขายพระตามตลาดตามวันพุธ เสาร์ อาทิตย์ พอได้เงินมาซื้อวัสดุ ทำบ้านจนแล้วเสร็จแต่ละเดือน ถือเป็นเรื่องมหัศจรรย์ และได้เห็นสัจจะธรรมที่ได้เห็นลูกน้องที่จริงใจ เพราะบางคน 2 เดือนแล้วยังไม่ได้เงินเดือนก็ยังอยู่ช่วยทำงาน
เสี่ยเบียร์ เผยถึงไอเดียใหม่ในการสร้างบ้านน็อคดาวน์รูปแบบใหม่ของไทยว่า ถ้าอยากเห็นบ้านปูน ที่ตนเองคิดค้นขึ้นมาใหม่ให้มาดูได้ที่อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ โดยการใช้อิฐมวลเบา ที่มีข้อดีกว่าอิฐบล็อก อิฐแดง เพราะอิฐมวลเบาจะมีรูพรุนในการซับอากาศ ดูดอากาศ เก็บอากาศ เก็บความเย็น ซึ่งตนเองเคยทดสอบว่าถ้าเป็นบ้านทั่วไปที่เป็นอิฐบล็อกถ้าโดนกระสุนปืนจะทะลุเข้าไปเลย แต่ถ้าเป็นอิฐมวลเบากระสุนจะไม่ทะลุ โดยการคิดค้นในการล็อคอิฐมวลเบา โดยการคิดค้นระแนงล็อคยึดน็อตอิฐมวลเบาก่อนฉาบ ทำให้เกิดความแข็งแรงทนทานตามที่เห็น ถือเป็นนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย มีคุณสมบัติ เย็น เก็บเสียง ป้องกันอันตรายได้ ราคาเท่ากันกับบ้านไม้ฝา
