กาฬสินธุ์ ชาวบ้านร้องสื่อ ถูกอดีตเจ้าอาวาสรับถวายเห็ดสีกาจอยในกุฎิกลางดึกแจ้งความเอาผิดพลเมืองดี
จากช่วงกลางดึกของเมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา กาฬสินธุ์ ชาวบ้านเข้าปิดล้อมกุฎิเจ้าอาวาส เหตุสีกาเข้าวัดถวายเห็ดพระกลางดึก หลังมีพลเมืองดีตีกลองแจ้งข่าวชาวบ้าน และมีการไลฟ์สดผ่านเฟสบุ๊กผู้ใช้บัญชีชื่อ WOON SEN เหตุเกิดที่วัดโพธิ์ศรีสะอาด บ้านแกเปะ ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์
หลังจากนั้นวันที่ 17 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวพิเศษประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่ามีรองเจ้าคณะอำเภอเมืองกาฬสินธุ์ เจ้าคณะตำบลเชียงเครือ และคณะสงฆ์ พร้อมกับชาวบ้าน กำลังนั่งหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมีสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดกาฬสินธุ์ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้าน ร่วมดำเนินการพิจารณาทางระเบียบวินัยสงฆ์ในครั้งนี้ด้วยกว่า 100 คน โดยชาวบ้านบอกว่าเจ้าอาวาสที่รับกิจนิมนต์สีกากลางดึก ได้หนีออกจากวัดแล้วช่วงตี 4 คือพระครูสุชานโพธิคุณ (ถนอม) อายุ 65 ปี ซึ่งชาวบ้านได้เกิดข้อสงสัยว่า คืนเกิดเหตุทำไมตำรวจและฝ่ายปกครองทำไมถึงปล่อยตัวผู้หญิงไป ทำไมไม่พาไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลเพื่อความบริสุทธิ์ใจก่อน และทำไมไม่จับสึกทันทีเพราะอยู่กับสีกากลางดึกในกุฎิสองต่อสอง มีหลักฐานเป็นคลิปไลฟ์สดอย่างชัดเจน
ต่อมาได้ข้อสรุป โดยมีคำสั่งจากเจ้าคณะจังหวัดกาฬสินธุ์ ที่ 61/2568 เรื่องปลดพระสังฆาธิการจากตำแหน่งหน้าที่ ให้ปลดพระครูสุชานโพธิคุณ เจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาด รองเจ้าคณะตำบลเชียงเครือ จากตำแหน่งหน้าที่ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2568 เป็นต้นไป และมีคำสั่งจากเจ้าคณะตำบลเชียงเครือ ที่ 2/2568 เรื่องแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาด ให้พระปรีดา ผลประดิษฐ์ ฉายา จนฺทโก อายุ 58 พรรษา 16 ดำรงตำแหน่ง ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ศรีสะอาด ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2568 เป็นต้นไป
โดยวันที่ 30 พฤศจิกายน 2568 คณะสงฆ์วัดโพธิ์ศรีสะอาด พร้อมผู้นำชุมชน และชาวบ้าน ได้จัดเวทีประชุมหารือเพื่อออกความเห็นในการเข้าช่วยเหลือพลเมืองดี ที่ถูกนายถนอม อดีตเจ้าอาวาสแจ้งข้อหาดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท, ปลุกปั่นชาวบ้าน และกักขังหน่วงเหนี่ยว โดยในที่ประชุมมีมติให้หาทนายความมาช่วยเหลือผู้ถูกกล่าวหา
ล่าสุดวันที่ 1 ธันวาคม 2568 คนตีกลองและคนไลฟ์สดในวันเกิดเหตุได้เดินทางมาเข้าพบ ร.ต.ท.พิมชนก พรหมเทะสาร รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ ตามหมายเรียก เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากถูกนายถนอม อดีตเจ้าอาวาสแจ้งข้อกล่าวหาคนไลฟ์สดในข้อหาว่าหมิ่นประมาท ส่วนคนตีกลองถูกแจ้งข้อหาว่าปลุกปั่นชาวบ้าน และยังมีผู้ใหญ่บ้านและกำนันอีก 2 คนที่นำโซ่ไปคล้องประตูกุฎิที่ถูกแจ้งข้อหาว่ากักขังหน่วงเหนี่ยวด้วย โดยมีชาวบ้านกว่า 20 คนที่มีบ้านอยู่ใกล้วัดเดินทางมาให้กำลังใจผู้ถูกกล่าวหาด้วย พร้อมกับทนาย
น.ส.วิภาวรรณ์ คนที่ไลฟ์สดในวันเกิดเหตุ บอกว่า ที่ไลฟ์สดก็ทำเพื่อชาวบ้านเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน เนื่องจากเม็มโมรี่หรือหน่วยความจำมือถือเต็ม เพราะสำนักพุทธแนะนำให้หาหลักฐานในการกล่าวหาเจ้าอาวาสคนนี้เอาไว้ ทุกคนก็ถ่ายกันหมด แต่คลิปที่ตนเองถ่ายเป็นไวรัล แต่มาวันนี้เขากับฟ้องเรา ว่าเราเป็นคนผิด ในข้อหาหมิ่นประมาท แต่พอได้รับคำแนะนำจากทนายแล้วก็รู้สึกสบายใจ เราไม่ได้เป็นคนผิดเราก็ไม่ต้องกลัว ก็ไม่รู้ว่าเขาผิดอยู่แล้วเขาจะสู้ไปทำไม เพราะเราทำตามความถูกต้องของเรา
นายยูกิ คนที่ตีกลองในวันเกิดเหตุ บอกว่า วันนั้นที่ตีกลองก็ทำเพื่อประชาชน เพราะคนในหมู่บ้านทนเห็นพฤติกรรมของอดีตเจ้าอาวาสรูปนี้มาหลายปีแล้ว ชาวบ้านเคยตักเตือนแล้วแต่ก็ยังไม่เลิกพฤติกรรม จึงพากันมาซุ่มดูในวันเกิดเหตุ แล้วก็เหตุช่วงเวลาประมาณ 22.20 น. ก็เห็นผู้หญิงเข้าไปในกุฎิเจ้าอาวาส จึงได้ตัดสินใจตีกลองเรียกชาวบ้าน พอวันนี้มารู้ว่าโดนกล่าวหาก็รู้สึกตกใจอยู่ เพราะไม่เคยมีคดีความ แต่ดีใจที่เห็นชาวบ้านมาให้กำลังใจ จึงฝากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามอดีตเจ้าอาวาส ซึ่งชาวบ้านทราบว่าเดินทางหนีขึ้นภูเขาไปอยู่แถวอำเภอกุสุมาลย์ จ.สกลนครแล้ว และชาวบ้านยังได้ยินว่ามีคนนำเงินไปช่วยสร้างที่พักให้นายถนอม อดีตเจ้าอาวาสถึง 200,000 บาท ที่ทางวัดและชาวบ้านกำลังหาหลักฐานกันอยู่
ด้านคุณแม่เข็มพร อายุ 63 ปี ชาวบ้านแกเปะ หมู่ 8 บอกว่า ตนเองเห็นพฤติกรรมของอดีตเจ้าอาวาสมานานแล้ว ตั้งแต่ในช่วงที่จะพาหลานเข้าไปบวชที่วัด ก็เลยเห็นพระรูปนี้อยู่กับผู้หญิงในยามวิกาล และไม่ใช่แค่ผู้หญิงคนเดียวที่เคยเห็น จำหน้าได้ ก็เลยเลิกศรัทธาพระรูปนี้มาตั้งแต่ตอนนั้น จึงห่างวัด แต่ถ้ามีลูกหลานจัดงานบุญมาเชิญไปทำบุญที่วัดถึงจะไป เห็นพระรูปนี้มีพฤติกรรมกับผู้หญิงมาหลายคนแล้ว บางคนถึงกับต้องไปทำแท้งก็มี วันนี้จึงเดินทางมาให้กำลังใจลูกหลานที่เป็นพลเมืองดี อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมต้องมาเอาผิดกับชาวบ้าน ถ้าอย่างนั้นคนเราจะกล้าทำความดีได้อย่างไร จะทำความดีไปทำไม จะปล่อยให้พระเป็นแบบนี้ไม่ได้ ถ้าพระดีเราก็ยกไว้เหนือหัว ถ้าพระชั่วเราก็ต้อง….ลงดิน ใครจะอยากได้พระมีเมีย เงินได้จากชาวบ้านแทนที่จะเอาไว้บูรณะโน่นนี่ ถ้าเก่งทำไมไม่เอาไปให้ชาวบ้านยืม คนนี้ทุกข์ไม่มีเงินซื้อข้าวให้เขามายืมไปซื้อข้าวกิน ตอนนี้ชาวบ้านแกเปะไม่ต้อนรับพระรูปนี้ เชิญไปอยู่ไหนไกลๆ ก็ไป จะไปอยู่นรกขุมไหนก็ไป แต่อย่ากลับมาอยู่ในเขตกาฬสินธุ์อีก ไม่นับถืออีกแล้ว เห็นตามถนนก็ไม่ยกมือไหว้
นายสุรชัย ทนายความ บอกว่า คดีนี้เป็นเรื่องของพระพุทธศาสนา สิ่งที่ผู้ถูกกล่าวหาทำคือการปกป้องศาสนา เพราะเห็นพระ/คนทำผิดศีล เป็นถึงขนาดเจ้าอาวาส แล้วมาทำปาราชิก (อาบัติหนักที่สุดในพระวินัย ที่ทำให้ภิกษุขาดจากความเป็นพระทันที และไม่สามารถกลับมาบวชใหม่ได้ตลอดชีวิต มี 4 ข้อหลัก คือ เสพเมถุน, ลักทรัพย์, ฆ่ามนุษย์ และอวดอุตริมนุสธรรม (อวดคุณวิเศษที่ไม่มีจริง)) มีผู้หญิงเข้ามาหา ที่ชาวบ้านรู้กันนานแล้ว โดยแนวทางในการช่วยเหลือพี่น้อง ก็จะได้นำเสนอข้อเท็จจริงว่าสิ่งที่เราทำไปเป็นการปกป้องพระพุทธศาสนา ทำไปโดยสุจริต เพื่อที่จะให้บุคคลทั่วไปได้เห็นว่าพระสงฆ์รูปนี้เกี่ยวข้องกับสีกา โดยมีพยานหลักฐานชัดเจน ถ้าเรานำสืบได้ก็ไม่น่าจะเข้าข้อหาที่ถูกกล่าวหา
คดีอดีตเจ้าอาวาส นายถนอม วัย 65 ปี กับสีกาจอย ตกเป็นข่าวดัง “เจ้าอาวาสรับถวายเห็ดกลางดึก” ในเมื่อช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา โดยอดีตพระรูปนี้บวชมาตั้งแต่ปี 2523 ได้เป็นเจ้าอาวาสในปี 2542 ปัจจุบันในวัดดังกล่าวมีพระสงฆ์อยู่พำนักที่วัดอยู่ จำนวน 10 รูป
อย่างไรก็ตามชาวบ้านหลายคนยังเปิดเผยข้อมูลให้ผู้สื่อข่าวทราบอีกว่า มีชาวบ้านบางส่วน ส่งเงินให้อดีตพระเจ้าอาวาส จำนวน 200,000 บาท ไปสร้างที่ให้อยู่ และสนับสนุนทุกอย่าง จึงอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบเส้นทางการเงินของนายถนอมอย่างละเอียดเพื่ออายัดบัญชีนำเงินมาคืนให้กับทางวัด ใช้ในการบำรุงทางพระพุทธศาสนา โดยทางวัดกับชาวบ้านกำลังหาหลักฐานเอาผิดในคดียักยอกทรัพย์อยู่
- ต้นเรื่องส่งเข้าระบบวันที่ 17 – 18 กันยายน 2568
