• เสาร์. เม.ย. 27th, 2024

รีวิวรอบ 16 ทีมยูโรปาลีก 2023/24 + พรีวิวรอบ 8 ทีม: 61 ประตู และ 8 ทีมเข้ารอบ

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่ายูโรป้าลีก ฤดูกาล 2023/2024 ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย จบลงไปอย่างสุดมันส์ จากการแข่งขันระหว่าง 16 ทีมใน 8 คู่ มีการทำประตูมากถึง 61 ประตู คิดเป็นค่าเฉลี่ยเกือบ 8 ประตูต่อ 1 คู่เลยทีเดียว เราจะมาย้อนดูผลการแข่งขันระหว่างทีม 16 ทีม ทีมที่เข้ารอบทั้ง 8 ทีม รวมถึงความเป็นไปได้ในการคว้าแชมป์ของทั้ง 8 ทีมที่เหลือกัน

61 ประตูจาก 8 คู่ แต่ใครเป็นผู้ชนะกันบ้าง?

เริ่มจากคู่ที่แพ้ชนะกันขาดลอยที่สุดก่อน “ลิเวอร์พูล” (อังกฤษ) ของเยอร์เก้น คล็อปป์ สามารถถล่มเอาชนะสปาร์ตา ปราก (เช็ค) ไปได้ 5-1 ในการแข่งขันนัดแรก ก่อนจะถล่มไปอีก 6-1 ในนัดที่สอง ผ่านเข้ารอบไปแบบสบาย ๆ ด้วยสกอร์รวม 11-2 เอาชนะด้วยผลต่างมากถึง 9 ประตู ตามมาด้วยเอซีมิลาน (อิตาลี) และเวสต์แฮม ยูไนเต็ด (อังกฤษ) ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งไปด้วยผลต่าง 4 ประตูได้ทั้งคู่ โดยมิลานเอาชนะสลาเวีย ปราก (เช็ค) ไปได้ 7-3 (สกอร์ 4-2 และ 3-1) ส่วนเวสต์แฮมก็สามารถคัมแบ็คกลับมาเอาชนะไฟรบวร์ก (เยอรมนี) ในนัดที่สองได้ 5-0 หลังจากที่นัดแรกแพ้ 0-1

สกอร์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ ได้แก่ คาราบัก (อาเซอร์ไบจาน) เกือบจะสามารถเอาชนะทีมไร้พ่าย “ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน” (เยอรมนี) ได้ในการแข่งขันทั้งสองนัด แต่มาโดนแพทริก ชิค ยิงท้ายเกมคว้าชัยชนะไปได้ทั้งสองครั้งอย่างสุดมันส์ หรือจะเป็น “ไบรท์ตัน” ที่ถึงแม้จะตกรอบไปด้วยสกอร์รวม 4-1 แต่ก็ทำเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะยอดทีมอย่างโรม่าไป 1-0 ในนัดที่สอง

ผลการแข่งขันและทีมที่ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย

ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) 11-2 สปาร์ตา ปราก (เช็ค)

มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส) 5-3 บียาร์เรอัล (สเปน)

โรม่า (อิตาลี) 4-1 ไบรท์ตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบียน (อังกฤษ)

เบนฟิก้า (โปรตุเกส) 3-2 เรนเจอร์ส (สกอตแลนด์)

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 5-1 ไฟรบวร์ก (เยอรมนี)

อตาลานต้า (อิตาลี) 3-2 สปอร์ตติ้ง ลิสบอน (โปรตุเกส)

เอซี มิลาน (อิตาลี) 7-3 สลาเวีย ปราก (เช็ค)

คาราบัค (อาเซอร์ไบจาน) 4-5 ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี)

ผลการจับฉลากสำหรับรอบ 8 ทีมสุดท้าย

หลังจากที่การแข่งขันในรอบ 16 ทีมสุดท้ายสิ้นสุดลง ทางยูฟ่าได้มีการจับฉลากทีมเข้าแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายเมื่อวันที่ 15 มีนาคมที่ผ่านมา โดยจะมีการแข่งขันนัดแรกในวันที่ 11 เมษายน และนัดที่สองในสัปดาห์ต่อมา วันที่ 18 เมษายน โดยจะเป็นการแข่งขันระหว่าง 8 ทีมใน 4 คู่ดังนี้

  • เอซี มิลาน (อิตาลี) พบ โรม่า (อิตาลี)
  • ลิเวอร์พูล (อังกฤษ) พบ อตาลานต้า (อิตาลี)
  • ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี) พบ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (อังกฤษ)
  • เบนฟิก้า (โปรตุเกส) พบ มาร์กเซย์ (ฝรั่งเศส)

นอกจากรอบ 8 ทีมชนะเลิศแล้ว ในวันเดียวกัน ยังมีการจับฉลากเพื่อกำหนดกรอบการแข่งขันสำหรับรองชิงชนะเลิศและรอบชิงชนะเลิศอีกด้วย โดยรอบรองชนะเลิศจะจัดขึ้นในช่วงวันที่ 2 และ 9 พฤษภาคม เพื่อหาทีม 2 ทีมที่จะเข้าไปชิงชัยกันที่กรุงดับลิน ประเทศไอร์แลนด์ ในวันที่ 22 พฤษภาคม

โอกาสคว้าแชมป์ของทีมที่ผ่านเข้ารอบทั้ง 8 ทีม

จากทั้ง 8 ทีม เว็บไซต์พนันต่างประเทศต่างยกให้ “ลิเวอร์พูล” เป็นเต็งหนึ่งในการคว้าแชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีกประจำฤดูกาล 2023/2024 ตามมาด้วยทีมไร้พ่ายและว่าที่เเชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี “ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน” โดยโอกาสคว้าแชมป์ของทั้ง 8 ทีม เรียงจากลำดับมากไปน้อย มีดังนี้

  1. ลิเวอร์พูล (แชมป์ 3 สมัย)
  2. ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (แชมป์ 1 สมัย)
  3. เอซี มิลาน
  4. โรม่า (รองแชมป์ปี 2023)
  5. เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (แชมป์ยูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีก ประจำปี 2023)
  6. อตาลานต้า
  7. มาร์กเซย์ (รองแชมป์ 3 สมัย)
  8. เบนฟิก้า (รองแชมป์ 3 สมัย)

สำหรับใครที่อยากจะเดิมพันตามโอกาสเหล่านี้เพื่อสร้างรายได้หรือเพื่อความบันเทิง สามารถเข้าไปยังเว็บไซต์ We88 เพื่อเริ่มสนุกไปด้วยกันได้เลย

สถิตินักฟุตบอลหลังจบรอบ 16 ทีม

หลังจากจบรอบ 16 ทีมสุดท้าย เรามาดูกันดีกว่าว่า นักฟุตบอลคนไหนยังมีโอกาสคว้ารางวัลส่วนตัวประจำฤดูกาลนี้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นรางวัลดาวซัลโว หรือรางวัลดาวแอสซิสต์

รายชื่อผู้ทำประตูสูงสุดประจำศึกยูโรปาลีก ฤดูกาล 2023/2024 (ณ รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

*นักฟุตบอลที่มีชื่อเป็นตัวหนา ยังคงอยู่ในการแข่งขัน

  1. ปิแอร์-เอเมอริก โอบาเมย็อง (มาร์กเซย์) 9 ประตู
  2. โรเมลู ลูกากู (โรม่า) 7 ประตู
  3. ชูเอา เปโดร (ไบรท์ตัน) 6 ประตู
  4. แพทริก ชิค (เลเวอร์คูเซน) ไมเคิล เกรกอริช (ไฟรบวร์ก) ดาร์วิน นูนเญซ (ลิเวอร์พูล) โฟติส ไอโออันนิดิส (พานาธิไนกอส) โมฮัมเหม็ด คูดุส (เวสต์แฮม) วิกเตอร์ กิเยอเกเรส (สปอร์ตติ้ง) จูนินโญ่ (คาราบัค) 5 ประตู

รายชื่อผู้ทำแอสซิสต์สูงสุดประจำศึกยูโรปาลีก ฤดูกาล 2023/2024 (ณ รอบ 16 ทีมสุดท้าย)

*นักฟุตบอลที่มีชื่อเป็นตัวหนา ยังคงอยู่ในการแข่งขัน

  1. อามีน ฮาริต และโจนาธาน เคลาส์ (มาร์กเซย์) 6 แอสซิสต์
  2. คอสตาส ฟอร์ตูนิส (พานาธิไนกอส) สเตฟาน เอล ชาราวี (โรม่า) 5 แอสซิสต์
  3. โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ และฮาร์วีย์ เอลเลียต (ลิเวอร์พูล) ฟลอเรียน เวียร์ตซ (เลเวอร์คูเซน) เจมส์ วอร์ด-พราวส์ (เวสต์แฮม) 4 แอสซิสต์